รีเซต

สรรพากรจัดให้! จ่ายภาษีไม่ไหวให้ผ่อน 3 เดือน ส่วนผู้ประกอบการจ่ายแล้วไปยื่นกู้ได้ รื้อเป้ารายได้ ปี’64 วิกฤตหนัก

สรรพากรจัดให้! จ่ายภาษีไม่ไหวให้ผ่อน 3 เดือน ส่วนผู้ประกอบการจ่ายแล้วไปยื่นกู้ได้ รื้อเป้ารายได้ ปี’64 วิกฤตหนัก
ข่าวสด
24 สิงหาคม 2563 ( 17:44 )
206
สรรพากรจัดให้! จ่ายภาษีไม่ไหวให้ผ่อน 3 เดือน ส่วนผู้ประกอบการจ่ายแล้วไปยื่นกู้ได้ รื้อเป้ารายได้ ปี’64 วิกฤตหนัก

 

กรมสรรพากรช่วยผู้เสียภาษี ให้ผ่อน 3 เดือน ส่วนผู้ประกอบการจ่ายแล้วไปยื่นกู้ได้ เร่งรื้อใหญ่เป้ารายได้ คาดปี’64 วิกฤตหนัก

จ่ายภาษีไม่ไหวให้ผ่อน3เดือน - นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวในงานสัมมนา “วิถีใหม่...ให้ภาษีเป็นเรื่องง่าย” (Easy Tax Transforms Your Life) ว่า การจัดเก็บรายได้ในปี 2563 จะไม่นำเรื่องเป้าหมายจัดเก็บ 2.11 ล้านล้านบาท มาเป็นที่ตั้ง เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน วันนี้ ถ้ามุ่งเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมาย คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน

 

“ขอย้ำว่าการเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมายเกิดจากการเลื่อนยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล ไปสิ้น 31 ส.ค. 2563 เพราะกรมต้องการให้ความสำคัญกับการช่วยประชาชน และเร่งคืนภาษี ซึ่งตอนนี้บุคคลธรรมดาคืนไปแล้วกว่า 95% คิดเป็น 3 ล้านคน เม็ดเงินกว่า 3.3 หมื่นล้านบาท ส่วนนิติบุคคลคืนแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท”

 

สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีนี้ จะต้องมีการหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อีกครั้ง โดยวัดจากการจัดเก็บรายได้เดือนส.ค. เป็นตัวชี้ขาดว่า การเก็บรายได้ทั้งปี 2563 จะเป็นเท่าใด เนื่องจากที่ผ่านมาการทำประมาณการรายได้ อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยขยายตัว 5% แต่ขณะนี้คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว -8% โดยรายได้ที่ตั้งไว้ 2.11 ล้านล้านบาท คงไม่สามารถทำได้ในภาคปฏิบัติ

 

อย่างไรก็ดี การเก็บรายได้ในปี 2563 ยังไม่น่าห่วง เพราะเป็นการเก็บจากฐานรายได้ปี 2562 ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่น่าเป็นห่วงคือ รายได้ปี 2564 ที่ตั้งไว้ 2.08 ล้านล้านบาทตามเอกสารงบประมาณ จะต้องกลับมาพิจารณาในภาพใหญ่อีกครั้ง

 

นายเอกนิติ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2563 รวม 10 ล้านราย จากปีก่อน 11.5 ล้านราย ส่วนนิติบุคคล ยื่นแล้ว 2 แสนรายจากปีก่อน 5 แสนราย โดยคาดว่าใกล้วันสิ้นสุดยื่นแบบ จะได้จำนวนใกล้เคียงกับปีก่อน โดยกรมจะพยายามสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ประกอบการค้าขายออนไลน์ ให้เข้ามายื่นแบบเสียภาษี โดยย้ำว่าสรรพากรไม่น่ากลัว ซึ่งจัดตั้งทีม ที่ปรึกษากรมสรรพากร พร้อมให้คำแนะนำผู้ค้าขายออนไลน์ สามารถเดินมาที่สรรพากรพื้นที่ เพื่อเสียภาษีถูกต้องได้ ภายในวันที่ 31 ส.ค.

 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 กรมสรรพากรพร้อมที่จะให้ผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาผ่อนชำระภาษีได้ 3 งวดไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องมีภาษีที่ชำระไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท ถ้าไม่ต้องการจ่ายครั้งเดียวก็ผ่อนชำระได้ ดีกว่าปล่อยไว้ ซึ่งจะโดยเบี้ยปรับ 1.5% ของภาษีประเมิน เป็นไปตามประมวลรัษฎากร ไม่มีผ่อนผัน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูง

 

ส่วนนิติบุคคล หากมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จากการชำระภาษี ก็สามารถนำหลักฐานการชำระภาษีไปใช้ยื่นกู้กับธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อขอสินเชื่อเสริมสภาพคล่องได้ ซึ่งเป็นความร่วมมือของกรม ในโครงการสินเชื่อต่อยอดผู้ประกอบการดีชำระภาษีถูกต้อง

 

นายเอกนิติ กล่าวว่า กรมสรรพากรได้นำ Digital Transformation มาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยคามสะดวกในการปฏิบัติการและชำระภาษี โดยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการปฏิบัติการและชำระภาษีของกรมสรรพากร เกิดขึ้นภายใต้ 9 ระบบดิจิทัล ได้แก่ 1. Tax from Home ประกอบด้วย e-Registration การลงทะเบียนขอยื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต และนำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านทางอีเมล์, e-Filing การยื่นแบบแสดงรายการภาษีทางอินเตอร์เน็ต, e-Payment การชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ และ e-Refund การคืนเงินภาษี

 

2. My Tax Account เป็นระบบที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นเพื่อตรวจสอบสิทธิค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ 3. e-donation ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อรับรองข้อมูลการรับบริจาคของหน่วยรับบริจาค 4. Open API ระบบที่พัฒนาสำหรับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากรเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการยื่นแบบและชำระภาษีผ่านระบบออนไลน์ 5. RD Smart TAX Application นวัตกรรมใหม่ในการจัดการด้านด้านภาษี มิติใหม่ของการให้บริการธุรกรรมของภาครัฐ ผ่านแอพพลิเคชั่น

 

6. VRT on Blockchain ระบบการคืนเงินภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นที่ใช้ระบบเทคโนโลยีบล็อกเชนในการเชื่อมต่อข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเป็นที่แรกของโลก 7. e-Tax Invoice&e-Receipt ใบกำกับภาษี รวมถึงใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้และใบรับที่จัดทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

 

8. e-Withholding Tax ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยเมื่อมีการจ่ายเงินได้ให้แก่ผู้รับเงินทั้งในและต่างประเทศ จะมีการนำส่งข้อมูลและภาษีพร้อมการชำระเงินผ่านธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการในระบบดังกล่าวแทนการยื่นด้วยแบบกระดาษ ช่วยลดขั้นตอน ลดต้นทุน ลดภาษี และสามารถตรวจสอบหลักฐานได้ตลอดเวลา ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 1 ต.ค. นี้ และ 9. e-Stamp Duty การชำระอากรแสตมป์เป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สำหรับตราสารอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเสียภาษี เป็นการส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบ e-Business ให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง