ไฟเขียว! ศบค.เห็นชอบซื้อยา "โมลนูพิราเวียร์" มอบ สธ.ชงครม. พิจารณากรอบวงเงิน

ศบค.เห็นชอบแผนจัดหายารักษาโควิด "โมลนูพิราเวียร์" 5 หมื่นคอร์ส ให้ สธ.เสนอ ครม.เพื่อพิจารณากรอบวงเงินการจัดซื้อยา พร้อมเห็นชอบเป้าหมายฉีดวัคซีน พ.ย. เพิ่มขึ้นใน 15 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงภายหลังประชุม ศบค.ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนการจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นำเสนอ จำนวน 5 หมื่นคอร์สสำหรับการรักษา ซึ่งผลการศึกษาพบว่าใช้ได้ผลดีในผู้ป่วยอาการไม่มาก ใช้แล้วหาย ที่ประชุมจึงมอบหมายกรมการแพทย์ นำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินการจัดซื้อยานี้

ส่วนแผนการจัดหาวัคซีน ซึ่งวัคซีนทำให้สถานการณ์โรคดีขึ้น เช่น กทม.ก็ดีขึ้นจากวัคซีน สามารถลดการติดเชื้อได้ ที่ประชุมรับทราบแผนจัดหาวัคซีนซึ่งถึงสิ้นปี 2564 มีจำนวน 127 ล้านโดส แต่ยังมีวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม และโมเดอร์นารวมกัน 62.5 ล้านโดส โดยเป้าหมายการฉีดวัคซีนเดือน ต.ค.นี้ ให้ครอบคลุมคนในประเทศไทย 50% ในระดับจังหวัด จึงขอร่วมมือกันฉีดวัคซีน

นอกจากนี้ ในจังหวัดยังขอให้ฉีด 70% ในหนึ่งพื้นที่ที่เป็น COVID Free Area เช่น จ.เลย ฉีด 50% แต่จะเปิดเชียงคานพื้นที่นี้ต้องได้ 70% เป็นต้น ซึ่งประชากรต้องรับวัคซีนจำนวนสูงถึงเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวมาได้ และให้เพิ่มการฉีดกลุ่ม 608 ให้ได้ 80%

อีกทั้งยังเห็นชอบเป้าหมายการฉีดวัคซีนเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 1-30 พ.ย. ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 15 จังหวัด คือ กทม. สมุทรปราการ กระบี่ พังงา ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ระนอง เชียงใหม่ เลย บุรีรัมย์ หนองคาย อุดรธานี ระยอง และตราด และพอถึง ธ.ค.ก็จะเพิ่มเป้าหมายขึ้นไป