ปากกา “ซูเปอร์เพน” ไททาเนียมอเนกประสงค์ รับประกันใช้งาน 100 ปี

บริษัท ไททันเนอร์ (Titaner) จากญี่ปุ่นเปิดตัวดรากอน เพิร์ล (Dragon Pearl) ปากกาไฮเทคทำจากไททาเนียมเกรด 5 ที่ออกแบบมาอย่างทนทานและแม่นยำ รองรับการใช้งานได้นานนับศตวรรษ ด้วยกลไกที่สามารถกดปลายปากกาได้มากกว่า 1 ล้านครั้ง พร้อมรับประกันนานถึง 100 ปี โดยผลิตภัณฑ์นี้เริ่มต้นจากการระดมทุนผ่านแพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์ Kickstarter
จุดเด่นของ Dragon Pearl สามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบ ทั้งด้ามจับแบบหยักหรือหกเหลี่ยม ปลายปากกาเลือกได้ระหว่างไททาเนียมหรือเหล็กกล้าชุบแข็ง M390 ซึ่งสามารถใช้ทุบกระจกในกรณีฉุกเฉินได้ คลิปหนีบกระเป๋าถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีลูกปัดแก้วหรือเซรามิกที่กลิ้งได้ติดตั้งไว้ที่ปลายคลิป ช่วยป้องกันความเสียหายของเสื้อผ้าเมื่อใช้งานบ่อยครั้ง
สำหรับเหตุผลที่ทำให้ดรากอน เพิร์ล (Dragon Pearl) สามารถใช้งานได้นานนับศตวรรษ
1. วัสดุไททาเนียมเกรด 5 (Grade 5 Titanium) ซึ่งเป็นวัสดุระดับอากาศยานที่มีความแข็งแรงสูง น้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม และไม่เปราะหักง่ายเหมือนพลาสติกหรือโลหะทั่วไป ช่วยให้ตัวด้ามและชิ้นส่วนภายในของปากกามีความทนทานต่อการใช้งานระยะยาวโดยไม่สึกกร่อน
2. กลไก “Dual-Wing Trajectory” ที่จดสิทธิบัตรเป็นระบบกดและปล่อยปลายปากกาแบบพิเศษที่ออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งานได้มากกว่า 1 ล้านครั้ง พร้อมมอบการทำงานที่ลื่นไหล สัมผัสแน่นหนา และไร้เสียงดังหรืออาการติดขัดซึ่งมักพบในปากกาทั่วไป ได้รับการจดสิทธิบัตรว่ามีสัมผัสการเขียนที่ “ลื่นไหลเหมือนผิวทารก”
3. การออกแบบแบบโมดูลาร์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนส่วนประกอบ เช่น ปลายปากกา หมึก หรือเครื่องมืออื่น ๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปลี่ยนทั้งด้าม จึงซ่อมบำรุงได้สะดวกและไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่หากชิ้นส่วนใดชำรุด
4. ปากกา Dragon Pearl รองรับหมึกเติมจากหลายแบรนด์ เช่น Schneider, Schmidt และ Fisher ซึ่งสามารถหาได้ทั่วไป โดยเฉพาะหมึก Fisher ที่ใช้งานได้แม้ใต้น้ำ จึงไม่ผูกขาดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งและสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องในระยะยาว
บริษัท ไททันเนอร์ (Titaner) ยังมีแผนพัฒนาอุปกรณ์ปลายปากกาเพิ่มเติม เช่น ใบมีดผ่าตัด หัวไขควง หรือดินสอกราไฟต์ถาวร เพื่อให้ Dragon Pearl เป็นมากกว่าปากกา แต่กลายเป็นเครื่องมืออเนกประสงค์ที่พกพาได้ทุกวัน
ดรากอน เพิร์ล (Dragon Pearl) มีขนาด 13 มม. x 144 มม. และหนักเพียง 25 กรัม โดยผู้ที่สนับสนุนโครงการผ่าน Kickstarter ในราคา 109 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,600 บาท จะได้รับสินค้าพร้อมการรับประกัน 100 ปี ส่วนราคาขายปลีกที่วางแผนไว้อยู่ที่ 208 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6,900 บาท