บานปลาย! ประท้วงเดือดไฟลุกท่วมเมือง ทวงความยุติธรรม ให้จอร์จ ฟลอยด์

วันนี้ ( 29 พ.ค. 63 )เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ประท้วง ปะทะกันในคืนวันพุธ เป็นคืนที่ 2 ในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ในเหตุการณ์จลาจลรุนแรงหลังจาก นายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีไร้อาวุธ วัย 46 ปี เสียชีวิตในคุกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอตำรวจผิวขาวนายหนึ่งใช้เข่ากดลงที่บริเวณลำคอของฟลอยด์ขณะเข้าจับกุม จนฟลอยด์หายใจไม่ออกต้องอ้าปากค้างเพื่อหายใจ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ ขณะประท้วงก็ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ส่วนห้างร้านธุรกิจต่าง ๆ ก็ถูกปล้นสะดมด้วยและการทำลายทรัพย์สิน อาคารหลายแห่งที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ประท้วงถูกเผาทำลาย 

นอกจากนี้ ยังมีการประท้วงลุกลามในหลายรัฐด้วย ทั้งในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์, ลอสแอนเจลีส รัฐแคลิฟอร์เนียและเมมฟิส รัฐเทนเนสซี 

การปะทะกันครั้งใหม่เกิดขึ้นในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ไม่กี่ชั่วโมงหลังนายกเทศมนตรีของเมืองมินนีแอโพลิส เรียกร้องให้ตั้งข้อหาคดีอาญาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในคลิปวิดีโอใช้เข่ากดคอของฟลอยด์ คาดว่าความรุนแรงจะยืดเยื้อต่ออีกในวันพฤหัสบดี 

อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย เกี่ยวข้องกับการจับกุมครั้งนี้ ถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว

เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ ย้อนภาพให้นึกถึงคดีของนายเอริก การ์เนอร์ ซึ่งถูกตำรวจล็อกคอจนเสียชีวิตขณะเข้าจับกุมในนิวยอร์กเมื่อปี 2557 การเสียชีวิตของเขาจุดชนวนให้เกิดการชุมนุมประท้วงรุนแรงต่อต้านความป่าเถื่อนของตำรวจและกลายเป็นแรงผลักดันให้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เรียกว่า “Black Lives Matter” หรือ “ชีวิตคนผิวดำก็มีความสำคัญ” และนายไมเคิล บราวน์ ชายผิวสี วัย 18 ปี อีกหนึ่งคนที่ถูกตำรวจผิวขาวเมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี ยิงเสียชีวิตเมื่อเดือน ส.ค ปีเดียวกัน ระหว่างการต่อสู้บนถนน