เอกชน ลุ้นผลเลือกตั้งสหรัฐฯมองโอกาสนโยบายการค้าเปลี่ยน
วันนี้ ( 4 พ.ย.63) นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เปิดเผยว่า กกร.จับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลต่อนโยบายการค้าและการลงทุนที่เปลี่ยนไปให้มีทั้งผลบวกและลบ โดยหากนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานธิบดีสหรัฐฯ และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาอาจจะส่งผลให้นโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯกับคู่ค้า มีแนวโน้มกลับมาผ่อนคลายมากขึ้น แต่หากนายโดนัลทรัมป์ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้ นโยบายการค้าทีี่เข้มงวดต่างๆก็จะยังเดินหน้าเช่นเดิมต่อไป
ทั้งนี้นายกลินท์ มองว่า ผลการเลือกตั้งสหรัฐครั้งนี้หากผู้ชนะการเลือกตั้งเป็นพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มว่าสหรัฐจะเข้าเป็นสมาชิกข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกหรือ CPTPP มีความเป็นไปได้สูง
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนยังคงเกาะติดการเลือกตั้งสหรัฐฯต่อเนื่อง เพราะมีผลต่อการค้าและการลงทุน ที่อาจเปลี่ยนไปเพื่อเตรียมตั้งรับ โดยกกร.ยังกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 ในหลายประเทศโดยเฉพาะยุโรป ซึ่งการประกาศล็อกดาวน์มีผลกระทบต่อกิจกรรมภายนอกของผู้บริโภค แม้ด้านการผลิตสินค้าจะไม่กระทบ แต่คาดว่าจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมแผ่วลง เบื้องต้นคาดว่าจะกระทบ GDP ไทยในไตรมาสที่ 4 ราว 0.37-0.5% จากผลกระทบต่อความต้องการสินค้าส่งออก
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE