SCL คาดเข้าตลาด mai ปีนี้ หุ้นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายแรกในตลาดทุน
#ทันหุ้น-บริษัท เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SCL หนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ของประเทศไทย เดินหน้าเสนอขาย IPO จำนวนไม่เกิน 70 ล้านหุ้น เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปีนี้ โดยมี บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำอันเดอร์ไรท์ ซึ่งนับเป็นหุ้นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์รายแรกที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุน
ทั้งนี้ SCL อยู่ระหว่างเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 70,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 28% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม (INDUS) ภายในปี 2566 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ที่ได้มาตรฐานอย่างครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัทฯ ด้วยเป้าหมายในการเป็นศูนย์รวมอะไหล่รถยนต์อย่างครบวงจร
ด้าน 5 โบรก ส่องหุ้น SCL มีความน่าสนใจด้วยประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 58 ปี และเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายอะไหล่รายใหญ่ของ ISUZU ซึ่งเป็นรถปิคอัพที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่ง และได้รับแรงหนุนจากจำนวนรถยนต์สะสมซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ช่วงราคาเหมาะสมปี 2567 อยู่ที่ 2.30 – 2.64 บาท
ชูจุดเด่น SCL เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์เพื่อการทดแทน (Replacement Equipment Manufacturer: REM) เพื่อทดแทนชิ้นส่วนยานยนต์ที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือที่เกิดความสึกหรอตามระยะทางการใช้งาน โดยมีผลิตภัณฑ์อะไหล่ มากกว่า 167,000 รายการ ครอบคลุมหลากหลายค่ายรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์อะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ เช่น ISUZU, MITSUBISHI, TOYOTA, HONDA, FUSO, FORD, NISSAN และ CHEVROLET
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอะไหล่ทดแทนที่ได้มาตรฐานของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับ เช่น AISIN, KAYABA, EXEDY, DENSO และ TOKICO พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 1,600 ราย ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการอะไหล่รถยนต์ขนาดกลางและขนาดย่อมในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ตลอดจนกลุ่มธุรกิจศูนย์บริการที่มีสาขาจำนวนมาก และกลุ่มบริษัทประกันภัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Lazada , Shopee , Big Thailand และ Egg Mall เป็นต้น ด้วยการให้บริการที่รวดเร็วและเป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้รับอะไหล่ที่ถูกต้องและรวดเร็วสมดังสโลแกนของบริษัทฯ “ถูกทุกชิ้น แท้ทุกส่วน”
สำหรับผลประกอบการ 3 ปีที่ผ่านมา ในปี 2563 - 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,224.27 ล้านบาท 1,256.85 ล้านบาท และ 1,352.61 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 22.03 ล้านบาท 27.32 ล้านบาท และ 39.91 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ ผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้จากการขาย 738.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 11.78 ล้านบาท