ITTHI ลั่นQ3 โตกระโดด โปรเจ็กต์ 3 หมื่นล้านจ่อ
ITTHI แย้มทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2566 โตโดดเด่น เตรียมส่งมอบงานในมือเพียบ พร้อมส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโปรเจ็กต์ทยอยออกอื้อ ชี้มูลค่าลงทุนอุปกรณ์ส่องสว่างรวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท โชว์ผลงานครึ่งปีแรกกวาดรายได้แล้ว 109.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.27%
นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI เปิดเผยว่า บริษัทคาดทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2566 จะเติบโตดีและโดดเด่น เพราะบริษัทเซ็นสัญญารับงานต้นเดือนสิงหาคมแล้วกว่า 180 ล้านบาท และจะดำเนินจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าตามกำหนด ขณะที่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทมีงานส่งมอบเป็นจำนวนมาก อีกทั้งช่วงที่เหลือต่อจากนี้คาดจะมีงบออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันงบที่ใช้อยู่คืองบเก่า และใช้อยู่เพียง 30-40% คาดในช่วงที่เหลือปีนี้จะส่งมอบสินค้าได้ตามสัญญา และคาดว่ารายได้จะทำได้ตามเป้า
** ครึ่งปีหลังสดใส
สำหรับครึ่งปีหลัง 2566 คาดทิศทางอุปกรณ์ส่องสว่างนวัตกรรมที่จะมีงานทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง งานละ 50-100 ล้านบาท และยาวไปจนถึงสิ้นปี 2566 โดยมูลค่าการลงทุนอุปกรณ์ส่องสว่างรวมจะอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท และแยกเป็นอุปกรณ์ส่องสว่างนวัตกรรมประมาณ 8 พันล้านบาท หากดูจาก 4 บริษัทที่สามารถจำหน่ายสินค้านวัตกรรมได้ คาดเฉลี่ยจะได้งานบริษัทละ 2 พันล้านบาท
อนึ่งผลประกอบการไตรมาส 2/2566 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวน 57.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.53% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดเป็นหลัก ส่วน 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 109.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18.27%
** ผลงานวิ่งฉลุย
ส่วนรายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อทำได้ 0.24 ล้านบาท ลดลง 70.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากปริมาณการใช้งานของผู้บริโภคปรับตัวลดลง ส่งผลให้ธุรกิจผลิตและจำหน่ายแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อมีรายได้ลดลง ส่วน 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 0.52 ล้านบาท ลดลง 71.96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน
ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 4.50 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.71% ลดลงจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนจำนวน 0.38 ล้านบาท ส่งผลให้ 6 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิเป็น 8.53 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.71%เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน จำนวน 2.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.35% จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามแนวโน้มของภาพรวมของธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์โควิด และบริษัทสามาถควบคุมต้นทุนของสินค้าในเรื่องการวางแผนการสั่งซื้อและขนส่งได้ดี