STARK ทางสะดวกSET50 กลุ่มบิ๊กล็อตเห็นอนาคต

ทันหุ้น-สู้โควิด- STARK โยนบิ๊กล็อตให้กับกองทุนชั้นนำในต่างประเทศ นักลงทุนสถาบัน นักลงทุน VI และเฮดจ์ฟันด์ เคลียร์ฟรีโฟลตตามนัด ปลดล็อกเกณฑ์เข้าคำนวณในดัชนี SET50 และ MSCI “ชนินทร์” ชี้ทำตามมาตรฐานบุ๊กบิวด์ราคา 1.40 บาท แต่จองเกินอื้อ หวังเก็บในตลาด ชี้โครงสร้างนักลงทุนสวย ระบุ 4 กลุ่มมองเห็นศักยภาพการเติบโตในอนาคต จับตาผลงานครึ่งปีหลังโตแรงแซงทางโค้ง

นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้จัดการปัญหาฟรีโฟลทที่อยู่ในระดับต่ำร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเสร็จสิ้นแล้ว หลังล่าสุดผู้ถือหุ้นใหญ่ตัดสินใจขายหุ้นบิ๊กล็อตให้กับ นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ กองทุน และนักลงทุน VI จำนวนทั้งสิ้น 2,250 ล้านหุ้น ซึ่งทำให้ฟรีโฟลทเพิ่มขึ้นเป็น 20.85% ถือเป็นการปลดล็อกปัญหาได้ในทันที และทำให้บริษัทมีโอกาสที่จะถูกดึงเข้าคำนวณในดัชนี SET50 เนื่องจากมีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ในด้านฟรีโฟลทแล้ว และในอนาคตมีโอกาสถูกดึงเข้าคำนวณในดัชนี MSCI เนื่องจากหุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น

@ลุ้นซื้อในกระดานเพิ่ม

การที่นักลงทุนทั้ง 4 กลุ่มเข้ามาซื้อหุ้นบริษัทนั้น เนื่องจากได้เห็นภาพธุรกิจชัดว่า STARK เป็นเบอร์ 1 ธุรกิจสายไฟ-เคเบิ้ลในอาเซียน มีโอกาสสูงในทั้งการวางโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย และยังโฟกัส เวียดนาม ที่มีการเติบโตด้านโครงสร้างพื้นฐานสูง มีการส่งออกและมีโอกาสในการขยายตลาด ซึ่งตัวเลขรายได้กำไรต่างๆ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด แม้จะเป็นการขายบิ๊กล็อต แต่บริษัทได้ให้ที่ปรึกษาดำเนินการ แสดงตัวเลขให้เห็นชัด

"การขายหุ้นของเราเป็นการขายให้กับนักลงทุนหลายกลุ่ม แบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ กองทุนในประเทศ ซึ่งมีทั้งกลุ่มสถาบันที่เป็นธนาคาร และสถาบันที่ไม่ใช่ธนาคาร 2.กลุ่มไฮเน็ตเวิร์ค รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ และ VI 3.กลุ่มกองทุนต่างประเทศ และ 4. คือกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างเป็นทางการโดยที่ปรึกษาทางการเงิน ใช้การบุ๊กบิวด์กำหนดราคาว่าสนใจราคาเท่าไหร่ เรามีจำนวนหุ้นอยู่ 2,250 ล้านหุ้น ก็เสนอมา ออกมา 1.40 บาท ซึ่งราคาที่ได้นั้นเป็นราคาบุ๊กบิวด์ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือว่ามีกลุ่มนักลงทุนได้จองซื้อเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่เราต้องการขาย คุณได้ 1.40 บาท ไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากนี้ หากต้องการได้เพิ่มก็คือจะต้องไปเก็บในตลาด" นายชนินทร์กล่าว

@เป้าชัดSET50-MSCI

นายชนินทร์ ระบุด้วยว่า บริษัทมีเป้าหมายชัดที่จะเข้า SET50-MSCI ซึ่งจะมีเกณฑ์ 3 ด้านคือ 1.ฟรีโฟลท ซึ่งปัจจุบันบริษัททำได้แล้ว 2.ปริมาณการซื้อขาย ซึ่งจะเกิดขึ้นตามมาหลังบริษัทมีสภาพคล่อง และ3.มาร์เก็ตแค๊ปซึ่งบริษัทมีโอกาสที่จะเข้าคำนวณได้ไม่ยาก ซึ่งเมื่อสามารถเข้า SET50 และ MSCI ได้แล้ว ก็จะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นายชนินทร์ กล่าวว่า คาดว่าจะโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยบริษัทฯอยู่ระหว่างการปรับปรุงประสิทธิภาพโลจิสติกส์ และการผลิตสายไฟในเวียดนาม ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 4/2563 ก็มีทิศทางที่ดีจากฤดูกาลสั่งซื้อสายไฟจากหน่วยงานการไฟฟ้า ที่จะออกมาค่อนข้างมากในช่วงนี้

ทั้งนี้ ธุรกิจสายไฟของ STARK ในปัจจุบัน ถือว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน โดยลงทุนผ่าน บริษัท เฟ้ลปส์ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ล่าสุด ในช่วงไตรมาส 2/2563 STARK เข้าซื้อกิจการธุรกิจสายไฟขนาดใหญ่ในเวียดนาม บริษัท Thinh Phat Cables JointStock Company (thipha) และ บริษัท Dong Viet Non-Ferrous Metal And Plastic Joint Stock Company (dovina) ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และสร้างโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก