รีเซต

ยักษ์กองทุนโลกซื้อSTARK ฟันด์ไทย-รายใหญ่เข้าเพิ่ม

ยักษ์กองทุนโลกซื้อSTARK ฟันด์ไทย-รายใหญ่เข้าเพิ่ม
ทันหุ้น
18 มีนาคม 2564 ( 08:00 )
296

ทันหุ้น – ยักษ์กองทุน-เฮดจ์ฟันด์ระดับโลกหลายแห่งพิสมัย STARK ร่วมเข้าซื้อบิ๊กล็อต จาก "วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" 8% ราคา 3.96 บาท ด้าน “บิ๊กชนินทร์” แจงชัดได้สองเด้ง ผูกคอนเน็กชั่นเพิ่มโอกาสให้กับ STARKและ เพิ่มฟรีโฟลตเป็น 30%หวังติด SET50เกณฑ์ใหม่ รับกองทุนนอกสนอนาคตเวียดนามอย่างมาก วงในแนะจับตาปิดสมุดทะเบียนเห็นรายชื่อมีอึ้ง ชี้กองทุนไทย-รายใหญ่แห่เข้าเพิ่ม

 

นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทำรายการขายหุ้นบนกระดานรายใหญ่ (Big lot) จำนวน 952 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8% ในราคาเฉลี่ย 3.96 บาท ผ่าน บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะแบ่งจัดสรรให้กับพันธมิตรได้แก่ นักลงทุนสถาบันในประเทศ ประมาณ 40% สถาบันต่างประเทศ ประมาณ 50%และนักลงทุนรายใหญ่ ภายหลังการขายหุ้น นายวนรัชต์ และ  Stark Investment Corporation Limited ยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 70%

 

นายชนินทร์ ระบุว่า การขายหุ้นบิ๊กล็อตดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมามีนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยและต่างชาติ แสดงความสนใจขอเข้าร่วมลงทุนจำนวนมากโดยมีการขอเข้ามามากกว่าพันล้านหุ้น แต่บริษัทได้ตัดสินใจในการขายในระดับดังกล่าวเพื่อทำให้ยังมีความต้องการในตลาดอยู่ โดยการขายครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีฟรีโฟลตเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 20%เพิ่มเป็น ประมาณ 30% เป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ SET50ในอนาคต ท่ามกลางตลาดหลักทรัพย์กำลังพิจารณาเกณฑ์มาร์เก็ตแค๊ปอ้างอิงฟรีโฟลต

 

@ยักษ์กองทุนเข้าซื้อ

 

สำหรับกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาครั้งนี้เป็นกองทุนขนาดใหญ่ของต่างชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก ขณะเดียวกันมีการซื้อเพิ่มขึ้นของกลุ่มที่เคยเข้าซื้อบิ๊กล็อตกับบริษัทในครั้งก่อนหน้า ทั้งสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนได้มองเห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ STARK เพราะอุตสาหกรรมสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ลมีแนวโน้มการเติบโตระดับสูง จากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นทั่วโลก และบริษัทฯมีศักยภาพการทำกำไรที่ดี

 

"กลุ่มที่เข้ามาได้มีการวิเคราะห์ผลงานแล้วเห็นว่าน่าสนใจ และการเก็บในตลาดไม่พอก็เลยมีการขอทำบิ๊กล็อต เพราะเห็นแนวโน้มสายไฟเติบโต และนอกจากนี้พันธมิตรบางรายต้องการที่จะเข้าสู่ตลาดเวียดนาม ซึ่งมีการเติบโตที่สูงมาก และมีขนาดสูงถึงครึ่งหนึ่งของกลุ่มประเทศ CLMV เป็นโอกาสที่ดีในอนาคต ดังนั้นการที่ STARK ซึ่งเป็นบริษัทไทย มีธุรกิจที่เวียดนาม ทำให้กลุ่มต่างๆ ให้ความสนใจที่จะเข้าจูงมือไปในเวียดนาม ปัจจุบันตลาดอาเซียนที่โดยเด่นมี 2 ประเทศคือ ไทย และเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันได้รับอิทธิพลของจีนไม่มาก "

 

นานชนินทร์ ระบุว่า จากการที่มีกองทุนระดับโลกเข้ามานั้น ส่งผลให้ STARK มีโอกาสเพิ่มขึ้นในด้านรายได้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นทั้งในฐานะนักลงทุน และพันธมิตร เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องการที่จะได้ผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นจึงมีการชี้ช่องต่างๆ เพิ่มเติมให้กับบริษัท จากคุณสมบัติของกองทุนต่างประเทศที่มีคอนเนกชั่นเยอะ มีเฮดจ์ฟันด์ดังๆ เข้ามา ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานการส่งออกและการดำเนินธุรกิจได้

 

"กองทุน เฮดจฟนด์ เหล่านี้ต้องการช่วยเรา เพราะยิ่งช่วยเรา หุ้นจะวิ่ง ก็เป็นตัวคูณมหาศาลให้กับนักลงทุนได้"

 

ประธานกรรมการ กล่าวอีกว่าการทำรายการบิ๊กล็อตในครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างการบริหารงาน ตลอดจนนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใดและมั่นใจว่าพันธมิตรที่ร่วมลงทุนในครั้งนี้จะถือลงทุนในระยะยาว เนื่องจากต้องการเติบโตไปพร้อมกับ STARK  สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2564บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 15-20%และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การมุ่งเน้นกลุ่มสินค้า High margin ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงตามจำนวนโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชนที่มากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ และปัจจุบันบริษัทฯ ยังมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 8,400ล้านบาท ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯมีความพร้อมที่จะยื่นเข้าประมูลงานโครงการใหม่อีกจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ การเข้าไปลงทุนประเทศเวียดนามในปีที่ผ่านมา สามารถสร้างมูลค่าให้กับบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะบุกตลาดสหรัฐ หลังจากที่จีน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ถูกกีดกันด้วยกำแพงภาษี จึงเป็นโอกาสที่ดี ขณะที่ตลาดสหรัฐ มีความต้องการใช้สายไฟฟ้า และเคเบิ้ลคุณภาพสูงจำนวนมาก

 

โดยบริษัทฯ คาดว่าจะใช้โรงงานในเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของฐานการผลิต เพื่อส่งออกไปรวมถึงหาโอกาสใหม่ในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งในปีนี้มีเป้าหมายสัดส่วนรายได้การส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 10-12% จากเดิม 8%โดยคาดว่าจะมีการส่งออกไปยัง 50 ประเทศ เพื่อมุ่งสร้างการเติบโตขององค์กรอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในระยะยาว และสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป

 

@จับตาปิดสมุดทะเบียน

 

ด้านแหล่งข่าวในอุตสาหกรรม ระบุว่า ให้จับตารายชื่อของกองทุนที่เข้ามาใหม่ หลังการปิดสมุดทะเบียน ซึ่งนับเป็นกองทุนขนาดใหญ่และเป็นเม็ดเงินในระดับภูมิภาคที่เข้ามา ขณะเดียวกันก็ยังมีเฮดจ์ฟันด์ชื่อดังที่คนไทยรู้จักเข้ามาด้วย ขณะที่กลุ่มเดิมที่ถือหุ้นทั้งกองทุนในประเทศและนักลงทุนรายใหญ่ต่างซื้อหุ้นเพิ่มทั้งสิ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง