STARKโดด8หมื่นล. อีวีหนุนซุ่มดีลเยอรมนี
#STARK #ทันหุ้น - STARK ชูปีหน้าโตก้าวกระโดดแตะ 8 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาด 3 หมื่นล้านบาท ได้ LEONI เสริมศักยภาพสายไฟอีวี ชูอีวี 1 คันใช้สายไฟ 2 หมื่นบาท ไม่รวมอุปกรณ์-สถานีชาร์จ เดินหน้าซินเนอร์ยี่ธุรกิจใหม่เก่า แย้มเดินหน้า M&A ต่อเนื่องมองดีลเยอรมนี โบรกชูได้กระแส Value Chain อีวีโลก วางเป้า 5.5-6 บาท
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าผลประกอบการจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 2566 โดยรายได้จะทำได้ถึงระดับ 8 หมื่นล้านบาทจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำได้ราว 3 หมื่นล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนการเข้าไปซื้อกิจการกลุ่ม LEONI สัดส่วน 100% ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเคเบิลสายไฟยานยนต์อันดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะในด้านของอีวีชาร์จเจอร์เป็นอันดับ 1 ทำให้สามารถขยายเข้าไปสู่ธุรกิจสายเคเบิลในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอีวี พร้อมทั้งยกระดับธุรกิจสายเคเบิลในปัจจุบันไปสู่ระดับสากล
@อีวีต่อยอดเติบโต
นายชนินทร์ กล่าวว่า กระแสยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศและมีการใช้สายไฟมาก โดยรถยนต์ไฟฟ้าคันหนึ่งจะใช้สายไฟฟ้ามูลค่าราว 1.5-2 หมื่นบาท ไม่รวมกับส่วนของสายไฟที่เป็นอุปกรณ์ชาร์จ และสถานีชาร์จ ดังนั้นความต้องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า จะช่วยผลักดันสายไฟชนิดพิเศษนี้เพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำธุรกิจทั้งในไทยและเวียดนามขยายไปยังตลาดต่างประเทศได้ด้วย ผ่านพันธมิตรในกลุ่ม LEONI ขณะที่ LEONI จะขยายฐานเข้าสู่เอเชียเช่นเดียวกัน
“อีวีเติบโตเร็ว อย่างจีนที่มีการขายอีวีไปทั่วโลกแล้ว ในไทยเองก็มีหลายกลุ่มที่ดำเนินการอยู่ LEONI จะเข้ามาสนับสนุนการเติบโต เพราะ LEONI เป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญในการผลิตสายไฟฟ้ายานยนต์ให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลก”นายชนินทร์ กล่าว
@*ปี67รายได้เกินแสนล้าน
ขณะที่ปี 2567 รายได้บริษัทจะทำได้เกินระดับ 1 แสนล้านบาท และยังเดินหน้าในการเข้าประมูลงานเน้นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง (High Margin Product) โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลางจนถึงระดับสูงพิเศษ (Medium – Extra High Voltage) เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชนที่มีการเติบโตสูง รวมไปถึงการเจรจาดีลซื้อกิจการ (M&A) ในเยอรมนี ที่จะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตต่อไป
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินเกี่ยวกับหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กำหนดราคาเหมาะสมที่ 5.5-6 บาท โดยมีปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อ LEONI ซึ่งจะทำให้สามารถ Diversify ไปสู่ธุรกิจสายเคเบิลในอุตสาหกรรมยานยนต์ และ EV เกาะกระแส Value Chain ของยานยนต์ไฟฟ้าโลก รวมถึงยังมี Upside ในเชิงของ Synergies จากอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นในการจัดซื้อวัตถุดิบ ทั้งทองแดง, อะลูมิเนียม และ Polymers ด้าน LEONI ก็จะสามารถขยายธุรกิจ เข้าไปยังตลาด ASEAN ในส่วนที่ยังขยายไปไม่ถึง ซึ่งแนวโน้มเติบโตสูงอีกด้วย