รีเซต

STARKเข้าตาทุนใหญ่ เปลี่ยนสายไฟรับอีวี

STARKเข้าตาทุนใหญ่ เปลี่ยนสายไฟรับอีวี
ทันหุ้น
21 ธันวาคม 2564 ( 00:07 )
115

ทันหุ้น – STARK เข้า SET100 ดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ชี้บูมรถอีวีเปลี่ยนสายไฟเพียบ ขณะที่พลังงานทดแทนหนุนอีก รับเต็มๆ กสทช.เร่งนำสายไฟลงดิน เหตุมีมาร์เก็ตแชร์สายไฟเกรดลงดินสูง 50% กวาดใหญ่เร่งขยายส่งออกสู่ 50 ประเทศทั่วโลก ด้านทุนใหญ่สนใจธุรกิจเข้าเมกะเทรนด์โลก พี/อี ลดเหลือ 24 เท่าจูงใจ มั่นใจผลงานปี 64 โตทะลุเป้า 20%

 

นายชนินทร์  เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ยอมรับว่า กระแสยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวีที่จะเกิดขึ้นแรงกว่าที่ประเมินไว้ จากการเร่งลดโลกร้อน ซึ่งภาครัฐก็เตรียมออกมาตรการส่งเสริมอีวี ทั้งในด้านการนำเข้ายานยนต์อีวี และการทำให้ราคารถอีวีถูกลง จะทำให้เกิดดีมานด์ค่อนข้างมาก

 

ดังนั้นโครงสร้างพื้นฐานต้องรองรับควบคู่กันไปทั้งสถานีชาร์จที่มีการใข้สายไฟมาก ทั้งสายไฟเซ็นเซอร์ ขณะที่ตู้จ่ายไฟ จะต้องเชื่อมสายไฟเพิ่มเพื่อทั้งกระแสไฟตรง กระแสไฟสลับ ในส่วนของสายไฟหลักการไฟฟ้าก็จะต้องมีการอัพเกรดตามปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น ยังไม่รวมกับการที่อาคารบ้านเรือน อาคารสูงที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนสายไฟที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับ

 

สำหรับกรณีที่ กสทช. เชิญผู้แทนของ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.), กรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม หารือกำหนดแผนบูรณาการการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าในเส้นทางหลักทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งมีการนำสายไฟลงดินด้วยนั้น นับเป็นเรื่องดีกับบริษัทในฐานะผู้ที่ครองมาร์เก็ตแชร์สายไฟเกรดลงดินเกิน 50% ทั้งในกทม. ต่างจังหวัด อีอีซี

นอกจากนี้ยังมีกรณีของการที่โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะมีความต้องการสายไฟอีกทั้งในส่วนของโซลาร์ และ โรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่เทคโนโลยีใหม่ทำให้ใช้สายไฟขนาดใหญ่ขึ้นและมากขึ้น

 

การดำเนินการปรับเปลี่ยนสายไฟเพื่อรองรับกับโครงสร้างพื้นฐานใหม่เพื่อลดโลกร้อน ทั้งอีวี และ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนนั้นจะเป็นไปทั่วโลก อย่างเวียดนามมีดีมานด์สูงกว่าไทย ในฐานะที่บริษัทส่งออกสายไฟ 45 ประเทศทั่วโลก จะได้รับผลดี ขณะนี้ยอมรับว่าออเดอร์เข้ามามาก ทำไม่ทัน จึงได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มเติม โดยคณะกรรมการได้อนุมัติการลงทุนแล้ว

 

@ ทุนใหญ่สนใจ

นายชนินทร์  ยอมรับว่า ธุรกิจบริษัทกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะหลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2564 มีกองทุนเดิมเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม ขณะเดียวกันกองทุนต่างประเทศรายใหม่ก็ได้มีการเข้ามาถือหุ้นเช่นกัน เนื่องจากธุรกิจของบริษัทเป็นเทรนด์ใหญ่ของโลก ขณะเดียวกันปัจจัยพื้นฐานของบริษัทก็แน่น ผลประกอบกอบการที่ออกมาดี เป้าหมายสามารถที่จะดำเนินการได้ เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่อง ที่สำคัญเชิงของพี/อี นั้นขณะนี้อยู่ในระดับ 24 เท่า ต่ำกว่าช่วงแรกๆ ที่พี/อี ทะลุเป็นร้อยเท่า หลังจากกำไรเติบโตต่อเนื่อง จึงเป็นจุดจูงใจให้นักลงทุนสนใจ

 

@ สยายปีก 50 ประเทศ

นายประกรณ์  เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า การที่ STARK ได้เข้าคำนวณในกลุ่มดัชนี SET100 รอบครึ่งปีแรกของปี 2565 จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน และคาดว่าจะทำให้ STARK เป็นที่รู้จักของกลุ่มนักลงทุนในระดับสากลมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังชี้ให้เห็นว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมั่งคงและชัดเจนไปกับปริมาณการใช้ทรัพยากรไฟฟ้าทั่วโลกที่มีอัตราเพิ่มขึ้นตามหลักการพัฒนาเมือง และการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้าถึงข้อมูลบริษัท เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ามาลงทุนมากยิ่งขึ้น และสนับสนุนโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคต

 

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของปี 2564 มั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้มากกว่าเป้าหมายวางไว้ที่ 20% และจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากมีแนวโน้มการรับรู้ยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากผลประกอบการของธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม ที่มีอัตราการเติบโตที่ดีทั้งในส่วนรายได้และกำไร

 

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 โดยเริ่มด้วยกลยุทธ์การขยายตลาดส่งออกเพิ่มเติมอยู่ที่ 50 ประเทศ จากเดิมที่ส่งออกอยู่ 42 ประเทศ เนื่องจากมี Partner ที่เป็นระดับ Global Company ที่ได้รับงานในประเทศต่างๆ นั้น จึงส่งผลทำให้สามารถส่งสินค้าไปหลากหลายประเทศได้เพิ่มขึ้นด้วย พร้อมทั้งยังคงมุ่งเน้นที่สินค้า High-Margin และมีแผนเข้าร่วมประมูลงานใหม่จำนวนมาก ขณะที่ปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท เป็นงานทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าด้วยเหตุดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง