วางเกม THCOM ช่วงลุ้นประมูลวงโคจรปลายปี
#ทันหุ้น – บล.เอเชียพลัส ปรับคำแนะนำ หุ้นบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM จาก “ซื้อ” เป็น SWITCH เนื่องจากเบื้องต้นคาดราคา เป้าหมายปี 2565 จะเพิ่มได้ไม่มากนัก นอกจากนี้หากรวมประโยชน์จากการเข้าประมูล ใบอนุญาตดาวเทียมดวงใหม่จาก กสทช. ที่มีกำหนดประมูลปลาย ธ.ค. 65 นี้เบื้องต้น คาดจะทำให้ราคาเป้าหมายปี 2565 เพิ่มเป็น 12.0 – 12.5 บาท ซึ่งยังมี upside จำกัด เพียง 3% - 7% จากราคาตลาดปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังประเมินว่า THCOM จะมีกำไรสุทธิในงวด 3Q65 ราว 341 ล้านบาท (+10% QoQ, +134% YoY) เพราะรวมรายการพิเศษสุทธิราว 135 ล้านบาท (กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน สุทธิจากภาษี196 ล้านบาท และส่วนแบ่งขาดทุนจากบ.ลูกในลาว 61 ล้านบาท) หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดว่ากำไรปกติจะอยู่ที่ 206 ล้านบาท ซึ่งค่อนข้างทรงตัวจาก ไตรมาสก่อนหน้า เพราะ 1) ทั้งรายได้และต้นทุนค่อนข้างทรงตัว QoQ ที่ 747 ล้านบาท และ 382 ล้านบาท ตามลำดับ
โดยในส่วนของรายได้ แม้การให้บริการดาวเทียมไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) แก่ลูกค้าจากอินเดียเป็นการชั่วคราว ได้สิ้นสุดไปแล้วในงวด 2Q65 แต่ชดเชย ได้ด้วยการให้บริการเสริมบนดาวเทียมแบบดั้งเดิมที่เริ่มเข้ามาใน 3Q65 และเงินบาทที่ค่า อ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐราว 7% QoQ
2) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ต่อยอดขายที่ลดลงจาก 25.5% เหลือ 25.2% โดยสาเหตุหลักคาดว่าจะมาจากค่าใช้จ่าย ทางกฏหมายที่ลดลงเมื่อเทียบกับงวดก่อนหน้าที่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับงวด 3Q64 แม้คาดว่ารายได้ในงวด 3Q65 จะลดลง 19% YoY แต่ยังสามารถ พลิกเป็นมีกำไรปกติได้ถึง 206 ล้านบาท จากที่เคยขาดทุนปกติ 61 ล้านบาท ในงวด 3Q64 เพราะคาดว่าต้นทุน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่คาดจะลดลงถึง 42% YoY และ 16% YoY เนื่องจากในงวด 3Q65 ไม่มีการบันทึกต้นทุนค่าตัดจำหน่ายของดาวเทียม ไทยคม 4 และไทยคม 6 อีก หลังสัมปทานสิ้นสุดไปตั้งแต่ปลาย 3Q64
แนวโน้มกำไรงวด 4Q65 ยังทรงตัว QoQ
เราเชื่อว่ากำไรปกติในงวด 4Q65 จะมีแนวโน้มเพียงแค่ทรงตัว QoQ เนื่องจากคาดว่าจะ ยังไม่มีรายได้ใหม่ๆเข้ามาเพิ่ม ทั้งจากลูกค้ารายใหม่ และ/หรือ บริการใหม่ๆ ใน ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีลูกค้าที่ยกเลิกการใช้งานไป โดยคาดว่าบริษัทจะพยายามควบคุม ต้นทุนและค่าใช้จ่ายไม่ให้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่หากเปรียบเทียบ YoY กำไรงวด 4Q65 จะยังดีขึ้น เมื่อเทียบกับ 4Q64 ที่มีกำไรปกติอยู่ 168 ล้านบาท เนื่องจากในงวด 4Q64 มีค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายที่สูง
ขณะที่คาดว่าในงวด 4Q65 ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะต่ำลง หลังอนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้บริษัทชนะข้อพิพาท และให้ ยกคำร้องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ที่ยื่นข้อพิพาทตั้งแต่เมื่อ ต.ค. 60 ว่าดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาสัมปทาน ซึ่งบริษัท จะต้องโอนกรรมสิทธิ์ดาวเทียม พร้อมชำระผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่กระทรวงฯ
เตรียมประมูลใบอนุญาตใช้วงโคจรดาวเทียมใหม่ปลายปี
เตรียมพร้อมประมูลใบอนุญาตใช้วงโคจรดาวเทียมใหม่ช่วงปลายปี หลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม แห่งชาติ (กสทช.) ล่าสุดได้มีกำหนดการจะเปิดประมูลวงโคจรดาวเทียมในเดือน ธ.ค. 65 นี้ รวมทั้งได้ทำประชาพิจารณ์สำหรับร่างหลักเกณฑ์การประมูลเสร็จสิ้นไปแล้วในเดือน ก.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้
ฝ่ายวิจัยมองว่า THCOM จะเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ เห็นได้จากเมื่อ กสทช. มีการจัดเตรียม ประมูลใน 2 ครั้งก่อนหน้า (ได้ถูกเลื่อนมาเป็นครั้งนี้) THCOM เป็นผู้ยื่นซองขอเข้าประมูล ในทั้ง 2 ครั้ง โดยเราเชื่อว่าบริษัทจะยื่นเข้าประมูล 1 – 2 วงโคจร เพื่อ1) สร้างดาวเทียมดวงใหม่มาทดแทนดาวเทียมไทยคม 4 หรือ ไอพีสตาร์ (วงโคจร 119.5 องศาตะวันออก) ซึ่งให้บริการด้านบรอดแบนด์แก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทย และย่าน เอเซียแปซิฟิค แต่กำลังจะหมดอายุการใช้งานภายใน 2 ปี ข้างหน้า ในขณะที่ภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในประเทศที่ไทยยังมีความต้องการใช้งานดาวเทียมที่ให้บริการบรอดแบนด์ อยู่สูง
2) สร้างดาวเทียมแบบดั้งเดิม (Conventional satellite) มาเตรียมไว้รองรับการใช้งาน ด้านการกระจายสัญญาณโทรทัศน์ บนดาวเทียมไทยคม 8 (วงโคจร 78.5 องศา ตะวันออก) ที่จะหมดอายุการใช้งานในอีก 7 ปี ข้างหน้า โดยหากอิงจากหลักเกณฑ์การประมูลครั้งใหม่นี้ ภายใต้หลักอนุรักษ์นิยมที่ให้ THCOM เข้า ประมูลเพียงรายเดียว (จะทำให้มีต้นทุนประมูลใบอนุญาตขั้นต่ำที่สูงกว่าการมีผู้เข้าประมูล หลายราย) ซึ่งในเบื้องต้นเราประเมินว่าหากเข้าประมูลเพียง 1 ใบอนุญาต THCOM จะ เลือกประมูลวงโคจรดาวเทียม 119.5 ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับราคาเป้าหมายของTHCOM ได้อีก 1.11 บาท แต่หากประมูลใบอนุญาตวงโคจร 78.5 ด้วย จะทำให้ราคา เป้าหมายเพิ่มขึ้นได้อีก 0.44 บาท