รีเซต

'จุรินทร์' บุกมณฑลกวางตุ้ง ดันเอสเอ็มอี เจาะตลาดจีน

'จุรินทร์' บุกมณฑลกวางตุ้ง ดันเอสเอ็มอี เจาะตลาดจีน
มติชน
23 กันยายน 2564 ( 10:03 )
64
'จุรินทร์' บุกมณฑลกวางตุ้ง ดันเอสเอ็มอี เจาะตลาดจีน

23 กันยายน รายงานข่าวกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว บูรณาการร่วมกับสถานกงสุลใหญ่ และทีมประเทศไทย ณ นครกว่างโจว ได้เข้าร่วมงานและร่วมเป็นเจ้าภาพ Co-Host Country งานแสดงสินค้าวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมระหว่างประเทศของจีน (China International SME Fair : CISMEF) ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 16 – 19 กันยายน 2564 ณ ศูนย์แสดงสินค้า China Import and Export Fair Complex เมืองกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

 

 

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมเป็นประธานฝ่ายไทยในพิธีเปิดในรูปแบบออนไลน์ และการกล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางคลิปวีดีทัศน์

 

 

ซึ่งปีนี้ เป็นครั้งแรกที่กระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศจีนได้จัดงาน SME International Cooperation Summit คู่ขนานกับงาน CISMEF

 

 

นายจุรินทร์ กล่าวขอบคุณรัฐบาลมณฑลกวางตุ้งที่ให้เกียรติประเทศไทยเป็นผู้จัดงานร่วม สำหรับการจัดงานซีสเมฟในปีนี้ และขอใช้โอกาสนี้ ส่งมอบกำลังใจให้ผู้ประกอบการ SMEs ทุกท่านก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ไปด้วยกัน ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่เราต้องอยู่ในสถานการณ์พิเศษ ที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ เป็นความท้าท้ายของทุกประเทศในขณะนี้ หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญนั้น คือกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดเล็ก ที่ได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ ซึ่งธุรกิจกลุ่มนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ

 

 

 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในประเทศไทย SMEs ถือเป็นรากฐานที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ การสนับสนุน SMEs จึงเป็นหนึ่งในนโยบายหลักที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะการส่งเสริมให้ SMEs นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปปรับใช้กับธุรกิจ การปรับตัวเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล เพิ่มความร่วมมือกับต่างประเทศทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เช่น การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญ การเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชจากทั่วโลก เพื่อขยายสินค้าคุณภาพสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งจีนถือเป็นต้นแบบสำคัญในการดำเนินนโยบายส่งเสริม SMEs ที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง งาน CISMEF จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2004 ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 17 แล้ว ถือเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดในการดำเนินนโยบายส่งเสริม SMEs ที่น่าชื่นชมของจีน งานนี้มีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจ SMEs ที่มีศักยภาพจากทั่วโลก ได้มีโอกาสเจรจาแลกเปลี่ยนทางการค้าในระดับสากล ซึ่งประเทศไทยเองก็ได้ให้ความสำคัญและเข้าร่วมงานนี้มาโดยตลอด ทั้งในนามภาครัฐและภาคเอกชน ในปีนี้ ถือเป็นปีพิเศษยิ่ง เป็นปีที่ไทย-จีน สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 46 ปี ไทยจึงได้ตอบรับคำเชิญจากรัฐบาลจีนในการเป็นเจ้าภาพร่วมของงาน CISMEF ครั้งที่ 17 เป็นครั้งแรก โดยในปีนี้เราได้คัดเลือกบริษัท SMEs ที่มีศักยภาพมาร่วมงาน

” ขอเชิญชวนทุกท่านไปเยี่ยมชมคูหาประเทศไทยด้วยครับ โดยคุณภาพและ ความปลอดภัย เป็นหัวใจหลักของสินค้าและบริการไทยมาตลอด โดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่ต้องผ่านมาตรฐานสากลอย่างเข้มงวด ผมในฐานะตัวแทนประเทศไทย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งมอบสินค้าและบริการดีๆ จาก SMEs ไทย เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนทั่วโลก และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือกับทุกประเทศ โดยเฉพาะจีนที่เป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยมาอย่างต่อเนื่อง และมณฑลกวางตุ้งของจีน ถือว่าเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยเช่นกัน ในปี 2020 การค้าระหว่างไทยและมณฑลกวางตุ้งมีมูลค่าสูงถึง 174,842 ล้านหยวน แบ่งเป็น มูลค่าการส่งออกจากกวางตุ้งไปไทย 78,989 ล้านหยวน และมูลค่าที่กวางตุ้งนำเข้าจากไทย 95,852 ล้านหยวน ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก แสดงถึงศักยภาพทางการค้าระหว่างกัน

 

 

“ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย ขอสนับสนุนการเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างไทย-จีน ทุกรูปแบบ และเชื่อมั่นว่างาน CISMEF (ซีสเมฟ) จะช่วยผลักดันการค้าไทยจีน เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และสร้างมูลค่าทางการค้าระหว่างไทย-จีนให้เพิ่มมากขึ้น ขอขอบคุณรัฐบาลจีน ที่ได้มีส่วนสร้างความเชื่อมโยง SMEs จากทั่วโลกมาไว้ในงานนี้ และหวังว่าไทย-จีน จะมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นต่อไป”

 

 

น.ส. สุภาวดี แย้มกมล ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 ระบุว่า งานนี้ในส่วน Thailand Pavilion มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการสำหรับประเทศไทยประมาณ 1,600 ตารางเมตร มีผู้ประกอบการไทย และผู้นำเข้า ผู้กระจายสินค้าไทย เข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไทยกว่า  54 บริษัท โดยนำสินค้าคุณภาพของไทยในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้า lifestyle เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สปา และธุรกิจบริการ เข้าร่วมแสดงศักยภาพสินค้าไทย

 

 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษในหลากหลายกิจกรรม เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการจากประเทศไทย อาทิ การ Live Streaming แนะนำ Thailand Pavilion การสาธิตการปรุงอาหารโดยร้านอาหารไทยที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT ในเมนูอาหารยอดนิยม ได้แก่ กะเพราไก่ แกงเขียวหวานไก่ ปูผัดผงกะหรี่ เป็นต้น การสาธิตนวดแผนไทย การจัดแสดงผลไม้ไทยและผ้าไหมไทยโดยการฝ่ายการเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว และการจัดแสดงข้อมูลการท่องเที่ยวและศิลปวัฒนธรรมโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกว่างโจว ซึ่งทุกกิจกรรมได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม

 

 

งาน CISMEF เป็นงานแสดงสินค้าสำหรับ SMEs ที่ใหญ่ที่สุดในจีน  และเปิดโอกาสทางธุรกิจในวงกว้างให้กับ SME จากทั่วโลก โดยนอกจากประเทศไทยแล้ว ผู้จัดงานยังได้เชิญองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization – UNIDO) ร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้จัดบนพื้นที่ 80,000 ตารางเมตร กว่า 2,500 คูหา และโซนนิทรรศการจากต่างประเทศพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร มีผู้ร่วมงานจาก 30 ประเทศ ทั้งนี้ประเทศไทยมีบทบาทอย่างมากเนื่องจากนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นายจุรินทร์ ต้องการส่งเสริมให้ภาคผู้ประกอบการ SMEs มีโอกาสในตลาดส่งออกต่างประเทศและเป็นนโยบายหลักของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพื่อเพิ่มสัดส่วนผู้ประกอบการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง