รีเซต

หุ่นยนต์อวาตาร์ พลิกโฉมโลกอนาคตที่มนุษย์และหุ่นยนต์ทำงานร่วมกัน

หุ่นยนต์อวาตาร์ พลิกโฉมโลกอนาคตที่มนุษย์และหุ่นยนต์ทำงานร่วมกัน
TNN ช่อง16
3 กันยายน 2568 ( 16:16 )
30

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI และระบบหุ่นยนต์พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “หุ่นยนต์อวตาร์” (Robotic Avatar) ได้กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เพราะไม่เพียงทำงานแทนมนุษย์ แต่ยังทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ล่าสุด TNN Tech ได้รับเกียรติสัมภาษณ์ ศาสตราจารย์ อุสซาม่า คาทิป (Oussama Khatib) ศาสตราจารย์ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) และผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford Robotics Lab) ถึงวิวัฒนาการ เทคโนโลยีเบื้องหลัง และอนาคตของหุ่นยนต์อวตาร์ (Robotic Avatar) ที่กำลังปฏิวัติหลายวงการทั้งบนโลกและนอกโลก

จากหุ่นยนต์โรงงานสู่หุ่นยนต์อวาตาร์

“หุ่นยนต์อวตาร์” (Robotic Avatar) คือ หุ่นยนต์ที่สามารถให้มนุษย์ “สวมร่าง” ผ่านระบบควบคุมระยะไกลได้ ทำให้มนุษย์สามารถรู้สึกเหมือนอยู่ในร่างนั้นจริง ๆ เช่น เห็นสิ่งที่หุ่นยนต์เห็น ได้ยินเสียง และบางรุ่นยังส่งความรู้สึกสัมผัสกลับมาให้เราได้ด้วย

ย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1980 หุ่นยนต์ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานซ้ำ ๆ ในสภาพแวดล้อมที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำงานอย่างตายตัว และไม่ต้องอาศัยการปรับตัวหรือการโต้ตอบกับมนุษย์โดยตรง 

แต่ปัจจุบันนี้ หุ่นยนต์ได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างก้าวกระโดด จากเครื่องจักรทั่วไป ที่ทำงานได้เฉพาะแบบ ได้ถูกพัฒนาให้ฉลาดขึ้น ปรับตัวได้ และทำงานร่วมกับมนุษย์ในหลากหลายสถานการณ์ รวมถึง “หุ่นยนต์อวาตาร์” (Robotic Avatar) ซึ่งไม่เพียงควบคุมได้จากระยะไกล แต่ยังส่งต่อภาพ เสียง และแม้กระทั่งความรู้สึกสัมผัสแบบเรียลไทม์ ทำให้มนุษย์รู้สึกเหมือนกำลัง “อยู่ในร่างของหุ่นยนต์” จริง ๆ

โดยศาสตราจารย์ อุสซาม่า คาทิป (Oussama Khatib) ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง TNN Tech ว่า “เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และหุ่นยนต์ต้องสามารถรับรู้ มองเห็น และโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมจริงได้แบบเรียลไทม์ และนี่คือที่มาของ หุ่นยนต์อวตาร์ (Robotic Avatar) เครื่องจักรที่เชื่อมโยงมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยี ให้เรามองเห็นสิ่งที่มันเห็น และสัมผัสสิ่งที่มันสัมผัสได้”


เทคโนโลยีหุ่นยนต์อวาตาร์ (Robotic Avatar)

“หุ่นยนต์อวาตาร์” (Robotic Avatar) คือ เทคโนโลยีเชื่อมมนุษย์กับเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ ที่ควบคุมจากระยะไกล รับภาพ เสียง และสัมผัส พร้อม AI ช่วยให้ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างลื่นไหล ทั้งในโรงงาน การแพทย์ ไปจนถึงภารกิจอวกาศ

ความล้ำสมัยของหุ่นยนต์อวาตาร์ เกิดจากการพัฒนาในหลายมิติ ทั้ง ด้านพลังการประมวลผล ด้านวัสดุศาสตร์ รวมถึง ด้านระบบการสื่อสาร โดย ศาสตราจารย์ อุสซาม่า คาทิป (Oussama Khatib) อธิบายกับ TNN Tech ว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในหลายสาขาเป็นแรงผลักสำคัญ ตั้งแต่พลังการประมวลผลที่รวดเร็วขึ้น วัสดุศาสตร์ที่ล้ำสมัย เซ็นเซอร์สัมผัส (Tactile Sensors) และเซ็นเซอร์วัดแรง (Force Sensors) ไปจนถึงระบบสื่อสารที่ทำให้มนุษย์และหุ่นยนต์สามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์

โดยเฉพาะ เทคโนโลยีป้อนกลับแบบสัมผัส ซึ่งจำลองแรงและความรู้สึกจากหุ่นยนต์มายังมือของมนุษย์ หรือ เฮปติก อินเตอร์เฟส (Haptic Interface) เช่นใช้หุ่นยนต์ตรวจอัลตราซาวนด์ในพื้นที่ห่างไกล แพทย์สามารถรู้สึกแรงกดของหัวตรวจได้อย่างแม่นยำ แม้อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย แต่ยังขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการสุขภาพให้กับผู้คนทั่วโลก


การประยุกต์ใช้หุ่นยนต์อวาตาร์ (Robotic Avatar)

โดยหุ่นยนต์อวาตาร์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการใช้งานในภาคการแพทย์ แต่ยังสามารถประยุกต์ได้ในหลายสถานการณ์ เช่น:

  • ใต้น้ำ สำหรับสำรวจมหาสมุทรลึกและเก็บข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

  • พื้นที่เสี่ยง เช่น โครงข่ายไฟฟ้าแรงสูง เหมืองแร่ และพื้นที่ก่อสร้าง

  • สิ่งแวดล้อม สำหรับเก็บขยะในน้ำ ทำความสะอาดเมือง และฟื้นฟูระบบนิเวศ

  • งานทำงานระยะไกล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในหลายอุตสาหกรรม

อีกทั้ง ศาสตราจารย์ คาทิป ยังกล่าวกับ TNN Tech ด้วยว่าอวกาศเป็นสภาพแวดล้อมที่ หุ่นยนต์อวตาร์ (Robotic Avatar) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งในภารกิจเก็บขยะอวกาศและดาวเทียมที่หมดอายุ ปฏิบัติการซ่อมบำรุงภายนอกสถานีอวกาศ ไปจนถึงการสำรวจดาวอังคารและดวงจันทร์ในอนาคต และยังช่วยลดต้นทุนได้อย่างมหาศาลเมื่อเทียบกับการส่งมนุษย์ขึ้นไปในอวกาศ เพราะไม่ต้องคำนึงถึงระบบสนับสนุนชีวิตที่ซับซ้อน และสามารถควบคุมการทำงานได้จากโลกหรือจากสถานีอวกาศโดยตรง


มุมมองอนาคตของ หุ่นยนต์อวตาร์ (Robotic Avatar)

แม้เทคโนโลยีหุ่นยนต์อวาตาร์ยังอยู่ในขั้นวิจัยและพัฒนา แต่ ศาสตราจารย์ อุสซาม่า คาทิป (Oussama Khatib) ได้กล่าวกับ TNN Tech ว่า การใช้งาน หุ่นยนต์อวตาร์ (Robotic Avatar) จะช่วยลดต้นทุนลงได้เมื่อเทคโนโลยีนี้ได้เข้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว และตามวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ มองว่าการแพทย์จะเป็นหนึ่งในสาขาที่เห็นการใช้งานจริงก่อนใคร

และ ศาสตราจารย์ คาทิป ได้กล่าวทิ้งท้ายการสัมภาษณ์กับ TNN Tech ว่า “อนาคตของหุ่นยนต์อวาตาร์ ไม่ใช่อนาคตที่มนุษย์ถูกแทนที่ แต่คือการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างโลกที่ปลอดภัย ฉลาด และยั่งยืน”

สามารถฟังบทสัมภาษณ์รูปแบบเต็มได้ที่รายการ TNN Tech Original 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง