รีเซต

นักวิทยาศาสตร์จำลองใบหน้า “มัมมี่ชาวอินคา” อายุ 500 ปีได้สำเร็จ

นักวิทยาศาสตร์จำลองใบหน้า “มัมมี่ชาวอินคา” อายุ 500 ปีได้สำเร็จ
TNN ช่อง16
27 ตุลาคม 2566 ( 09:33 )
97

ทีมนักวิทยาศาสร์และนักโบราณคดี ประสบความสำเร็จในการสร้างหุ่นจำลองครึ่งตัวของมัมมี่เด็กสาวชาวอินคาในประเทศเปรู หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "ฮัวนิตา" หรือ "หญิงสาวน้ำแข็งชาวอินคา" จนออกมาเป็นหุ่นจำลองครึ่งตัวที่ทำให้เห็นทั้งรายละเอียดโครงหน้า ลักษณะสีตา และสีผิวได้อย่างสมจริง


ภาพจากรอยเตอร์


สำหรับมัมมี่ร่างนี้ เป็นมัมมี่ของเด็กหญิงชาวอินคา ที่เชื่อว่าน่าจะมีอายุขณะเสียชีวิตอยู่ที่ระหว่าง 14-15 ปี โดยนักโบราณคดีเชื่อว่าเธอเป็นหนึ่งในร่างที่เสียชีวิตจากการบูชายัญในพิธีกรรมเมื่อกว่า 500 ปีที่แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการขอพรจากเทพเจ้าให้ปัดเป่าอาณาจักรของชาวอินคาให้พ้นภัยพิบัติต่าง ๆโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดี และผู้เชี่ยวชาญจากประเทศเปรูและโปแลนด์ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้าน facial reconstruction หรือผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การจำลองใบหน้าและกระโหลกศีรษะ ได้ร่วมมือกันเพื่อศึกษารายละเอียดของมัมมี่ และสร้างหุ่นซิลิโคน ที่มีความสูงตั้งแต่ช่วงอกไปจนถึงศีรษะของเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาใหม่ 


ภาพจากรอยเตอร์

 

สำหรับเทคโนโลยีและกระบวนการที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ใช้ ประกอบไปด้วยการสแกนร่างกายของมัมมี่แบบสามมิติ การวัดกะโหลกศีรษะ การศึกษาดีเอ็นเอ และลักษณะทางชาติพันธุ์วิทยา เพื่อเป็นแนวทางในการจำลองลักษณะร่างกายให้ใกล้เคียงกับเมื่อครั้งยังมีชีวิตมากที่สุด


ภาพจากรอยเตอร์


โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ ใช้เวลาทำงานไปประมาณ 400 ชั่วโมงในการสร้างแบบจำลองหุ่นและใบหน้าของมัมมี่ร่างนี้ขึ้นมา ซึ่งทำให้เห็นว่าเธอคนนี้เคยมีโหนกแก้มเด่นชัด ดวงตาสีเข้ม และผิวสีน้ำตาล และแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส รวมถึงสวมใส่เครื่องประดับอีกด้วย


ภาพจากรอยเตอร์

 


ซึ่งผลงานที่ออกมาเรียกได้ว่าน่าประทับใจจนทำให้ ดร. โยฮัน ไรน์ฮาร์ด (Johan Reinhard) นักโบราณคดีชาวสหรัฐฯ ผู้ค้นพบมัมมี่ร่างนี้ครั้งแรกในปีค.ศ. 1995 ถึงกับกล่าวว่าการสร้างรูปปั้นครึ่งตัวนี้ “ทำให้เธอดูมีชีวิตขึ้นมามากขึ้น"


ภาพจากรอยเตอร์

 

โดย ดร.ไรน์ฮาร์ดและ มิเกล ซาราเต นักปีนเขาชาวเปรู พบร่างน้ำแข็งของมัมมี่ฮวนนิตาที่ระดับความสูง 6,400 เมตร ระหว่างการเดินทางไปยังภูเขาไฟอัมปาโต ทางตอนใต้ของเปรู ร่างมัมมี่ที่พบสวมเสื้อคลุมสำหรับพิธีการและเครื่องประดับศีรษะ และถูกล้อมรอบด้วยวัตถุเซรามิก รวมถึงชาม และตุ๊กตา 


ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มองว่าด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน นอกจากจะช่วยทำให้สามารถจำลองใบหน้าและร่างกายของมัมมี่ยุคโบราณขึ้นมาใหม่ได้ ยังช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำความเข้าใจชีวิตและวัฒนธรรมโบราณได้ดีขึ้น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การค้นพบความลับของอารยธรรมยุคต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วย 




ข้อมูลจาก bbc, reuters, apnews, businessinsider


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง