BCPภาพลักษณ์ดีขึ้น หลังถือห้นBSRC100%

#BCP #BSRC #ทันหุ้น – BCP ทำเทนเดอร์ BSRC เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ โบรกระยะสั้นยังไม่น่าสนใจลงทุน แต่หนุนธุรกิจในระยะกลางจากภาพธุรกิจดูดีขึ้นจากจำนวนสาขาที่มากขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง รวมถึงทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง จะมีเพิ่มขึ้นเมื่อรวมกับสำนักงานประกันสังคมและกระทรวงการคลัง ทำให้ภาพลักษณ์บริษัทเริ่มดูดีขึ้นจากการเข้ามาถือหุ้นของบริษัทกัมพูชา

นางสาวภัทร์ภูรี  ชินกุลกิจนิวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องกำหนดการเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ของบริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC ในอัตรา 6.50 หุ้นสามัญของ BSRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ตามแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการบริหารจัดการระหว่าง 2 บริษัท

@เพิ่มประสิทธิภาพ

 ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจากให้สามารถตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความแข็งแกร่งของผลประกอบการ อันทำให้โครงสร้างการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทบางจากมีความชัดเจน ตลอดจนช่วยลดกระบวนการทำงานและขั้นตอนการทำงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ BSRC และเริ่มทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เดิมของ BSRC จากผู้ถือหุ้นรายอื่นของ BSRC ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2568 - 27 พฤศจิกายน 2568 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. (เฉพาะวันทำการ) ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลารับซื้อสุดท้ายและจะไม่มีการขยายเวลารับซื้ออีก

@หุ้นยังไม่น่าตื่นเต้น

นายวิจิตร  อารยะพิศิษฐ  นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ประเด็นนี้มีมานานแล้วตั้งแต่ยังเป็น ESSO ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น BSRC แต่ BCP ยังไม่ได้ถือหุ้น 100% และการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ BSRC คือขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ซึ่งมองว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อราคาหุ้นมากเพราะตลาดรับรู้มานานแล้ว

โดยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ราคาหุ้น BSRC ปรับตัวขึ้นมา 6.22% อยู่ที่ 4.44 บาท เมื่อนำมาคูณกับ 6.50 หุ้น จะได้ราคาใกล้เคียงกับ BCP ที่ซื้อขายอยู่บนกระดานไม่ได้ต่างกันมาก ดังนั้นจึงไม่ใช่จังหวะเข้าซื้อ BSRC ขณะที่ BCP ในระยะสั้นสัญญาณยังไม่ค่อยน่าซื้อเท่าไหร่ เพราะผลประกอบการระยะสั้นยังไม่โดดเด่น ถ้าจะซื้อแนะนำ BCPG ที่เป็นบริษัทลูกน่าสนใจกว่า

ทั้งนี้มองเป็นบวกต่อการเติบโตในระยะกลาง เนื่องจากธุรกิจของทั้ง 2 บริษัทเป็นการเสริมซึ่งกันและกัน และไม่ได้แต่ต่างกันมาก ทำให้ภาพรวม BCP ดูใหญ่ขึ้น มีสถานีบริการน้ำมันที่ค่อนข้างใหญ่ขึ้น ครอบคลุมในจุดต่างๆ รวมถึงช่วยประหยัดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนโดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการต้นทุนการสั่งซื้อวัตถุดิบอย่างน้ำมันดิบ เพราะมีโรงกลั่น 2 แห่ง

อีกทั้งการปฏิบัติงานของ BSRC จะทำได้ดีขึ้นเมื่อ BCP เข้าไปบริหารจัดการ ทั้งในเรื่องของต้นทุนและภาพรวมของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้น แต่ปัจจัยดังกล่าวต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกสักพักถึงจะเกิดขึ้น

@ฟื้นภาพลักษณ์

นายสุวัฒน์  สินสาฎก  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า เรื่องนี้มีการประกาศมานานแล้วการทำ Tender Offer ที่ 6.50 หุ้นสามัญของ BSRC ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีและเป็นธรรมกับนักลงทุน ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นอยู่ต่ำกว่าราคาตลาด และมีการทำ Tender Offer ที่สูงกว่าราคาตลาด ราคาหุ้นย่อมขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะเดียวกันหากมีการรวมกันของทั้ง 2 บริษัท สัดส่วนของกองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง จะมีเพิ่มขึ้นเมื่อรวมกับสำนักงานประกันสังคมและกระทรวงการคลัง ถือว่ามีสัดส่วนที่ใหญ่ ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทจากกัมพูชาถูกไดรูทลงไป ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ BCP กลับมาดูดีขึ้น

จากประเด็นที่คนส่วนใหญ่กลัวกัน ทั้งประเด็นข่าวลือและพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา ซึ่งมองว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้อยาก โดย BCP บอร์ดที่เป็นกรรมอิสระจำนวนมาก ดังนั้นการที่จะไปทำอะไรต่างๆ จึงไม่ง่าย