รีเซต

คลังการันตีมีเงินจ่ายประกันรายได้ข้าว เผยหารือสำนักงบถกหาแหล่งเงิน ชี้ต้องใช้อีก 7.6 หมื่นล้าน

คลังการันตีมีเงินจ่ายประกันรายได้ข้าว เผยหารือสำนักงบถกหาแหล่งเงิน ชี้ต้องใช้อีก 7.6 หมื่นล้าน
ข่าวสด
11 พฤศจิกายน 2564 ( 15:59 )
43
คลังการันตีมีเงินจ่ายประกันรายได้ข้าว เผยหารือสำนักงบถกหาแหล่งเงิน ชี้ต้องใช้อีก 7.6 หมื่นล้าน

คลังยันมีเงินจ่ายประกันข้าว - นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปเร่งหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อหาแหล่งเงินมาใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ซึ่งยังมีความต้องการใช้เงินอีก 7.6 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นคลังได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปหารือกับสำนักงบประมาณ ว่ายังมีแหล่งเงินในส่วนไหน อย่างไรที่จะสามารถดึงมาดำเนินการได้บ้าง

 

“เบื้องต้น สศค. ได้คุยกับสำนักงบประมาณแล้ว ตอนนี้กำลังดูกันอยู่ว่ามีช่องทางไหนบ้าง มีแหล่งเงินตรงไหนอย่างมา จะมาจากส่วนไหนได้บ้าง โดยเชื่อว่าหลังจากคลังกับสำนักงบประมาณได้มีการหารือกันแล้วก็น่าจะมีความชัดเจนว่าจะมีทางออกที่ชัดเจนออกมาว่าจะสามารถเดินไปทางไหนได้” นายกฤษฎา กล่าว

 

นายกฤษฎา กล่าวถึงข้อเสนอเรื่องการขยายเพดานการก่อหนี้ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และหน่วยงานอื่น เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 28 ที่กำหนดว่าภาระหนี้ในส่วนนี้รวมกันต้องไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่ายนั้น คลังกับสำนักงบประมาณต้องคุยกันก่อนว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร

 

ทั้งนี้ สมัยก่อนไม่มีกฎหมายตัวนี้ แต่เมื่อปัจจุบันมีกฎหมายนี้ และมีการบังคับใช้แล้ว ก็ต้องมีการพิจารณา ต้องดูถึงความจำเป็น ว่ากันไปตามกฎหมาย

 

“รัฐบาลได้กำชับให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเร่งหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด ซึ่งรัฐบาลยืนยันชัดเจนว่ามีความตั้งใจดีที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรอยู่แล้ว” นายกฤษฎา กล่าว

 

รายงานข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 28 กำหนดไว้ว่า การใช้เงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ที่เพื่อการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไปก่อน จะต้องมีภาระรวมกันทั้งสิ้นไม่เกิน 30% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งปัจจุบันใกล้ชนเพดานดังกล่าว หรือ ประมาณ 9.3 แสนล้านบาท เทียบกับวงเงินงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านบาท

ปัญหาดังกล่าว ส่งผลให้การใช้เงินสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินชดเชยประกันรายได้เกษตรกรต่อไม่สามารถทำได้ โดยรัฐบาลต้องแก้ปัญหา โดยการหาเงินงบประมาณส่วนอื่นเพื่อไปใช้หนี้กับ ธ.ก.ส. หรือ เป็นเงินให้ ธ.ก.ส. ใช้สำหรับการจ่ายชดเชยการประกันราคาพืชผลเกษตรกรที่จะมีต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะการจ่ายชดเชยเกษตรกรชาวนาที่ได้ราคาข้าวตกต่ำ ทำให้ราคาขายได้ต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลประกันไว้มาก

นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถแก้ปัญหาได้ โดยการแก้ไขกฎหมายขยายเพดานการใช้เงินจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อดำเนินนโยบายของรัฐให้มีสัดส่วนมากขึ้นกว่า 30% ของงบประมาณที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน เหมือนกับที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขกรอบเพดานการก่อหนี้สาธารณะจาก 60% ของจีดีพี เป็น 70% ของจีดีพี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง