รีเซต

ใครอยากเป็นเศรษฐี? ต้องรู้จักทริคปลดหนี้ และการออมเงินสู้วิกฤตโควิด

ใครอยากเป็นเศรษฐี? ต้องรู้จักทริคปลดหนี้ และการออมเงินสู้วิกฤตโควิด
Ingonn
1 มิถุนายน 2564 ( 17:58 )
303

 

จะให้พูดถึงเรื่องค่าใช้จ่ายและเงินที่เหลืออยู่ คงจะพูดออกมาอย่างกระอักกระอ่วน เพราะตั้งแต่เจ้าโควิด-19 เข้ามาทำให้เกิดวิกฤตทางสุขภาพแล้ว ยังเข้ามาสร้างภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจที่ดิ่งหนักอีกด้วย ทำให้เราต้องเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดการก่อหนี้ที่โปะเท่าไหร่ก็โปะไม่หมดสักที

 

 

วันนี้ TrueID ได้หยิบยกเทคนิคดีๆจากคู่มือชีวิต วิถีใหม่ ของ สสส. ที่จะช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บเงิน การปลดหนี้ เพื่อวางแผนการออมที่ดีรับวิกฤตในช่วงโควิด-19 ระบาดกัน

 

 


การรับมือกับภาวะเศรษฐกิจ


เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือวิกฤตที่กระทบต่อการดำเนินชีวิตและการทำงานอย่างกะทันหัน ทำให้หลายคนขาครายได้ ไม่มีเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเหมือนเคย ดังนั้นหากใครที่เคยคิดว่าหารายได้แค่พอใช้และคิดว่าจะมีกินมีใช้อย่างนั้นตลอดไป ลองกลับมาทบทวนถึงความสำคัญของการวางแผนเรื่องการใช้เงินและการออมเงินอีกครั้ง เพื่อที่จะสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและรับมือกับภาวะฉุกเฉินได้อย่างไม่ประมาท

 

 


การวางแผนเรื่องการใช้เงินและการออม


1.ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของตัวเอง


2.วางแผนออมเงิน


3.บริหารจัดการหนี้สิน

 

 

 


ประเมินสถานการณ์ทางการเงินของตัวเอง


เรื่องการเงินเป็นเรื่องใกล้ตัวมากกว่าที่คิด และการรู้สถานการณ์ทางการเงินของตัวเองจะทำให้สามารถมีรายรับ

 

1.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อประเมินว่าแต่ละเดือนมีรายรับเท่าไร เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายหรือไม่ 


2.จัดหมวดหมู่ของค่าใช้จ่าย เพื่อแยกประเภทค่าใช้จ่ายจำเป็นกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย


3.ทำรายการหนี้สินทั้งหมด เห็นว่ามีหนี้สินอะไรบ้าง รวมเป็นจำนวนเงินเท่าไร ต้องชำระเดือนละเท่าไร


4.ตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคาร เพื่อสามารถวางแผนสำหรับใช้จ่ายชำระหนี้ และออมเงินในอนาคตได้

 

 

 

บริหารจัดการหนี้สิน

 


1.จัดประเภทของหนี้สินที่มีอยู่เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หนี้ลงทุน ทำธุรกิจ หนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบฯลฯ


2.สำรวจอัตราดอกเบี้ย และยอดการชำระหนี้ขั้นต่ำของแต่ละก้อน


3.เรียงลำดับความสำคัญจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุด พยายามชำระหนี้ก้อนนั้นให้หมด เร็วกว่าหนี้ก้อนอื่นๆ


4.ชำระหนี้อย่างมีวินัย ไม่เพิ่มหนี้ก้อนใหม่


5.หากไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดพร้อมกันได้ทุกยอด ลองหาทางเจรจาประนอมหนี้เพื่อจ่ายขั้นต่ำ


6.บอกสถานการณ์หนี้สินให้คนในครอบครัวรับทราบ เพื่อร่วมมือกันไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและไม่สร้างภาระหนี้เพิ่มขึ้น

 

 

หนี้บัตรเครดิต


บัตรเครดิต รูดสะดวก กู้สบาย ดอกเบี้ยสูง เดี๋ยวนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดทำง่าย ใครๆ ก็มี หรืออาจจะมีหลายใบด้วยซ้ำ แต่ถ้าใช้ไม่ระวัง รูดเพลิน แล้วไม่จ่ายเต็มยอด อาจจะกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ได้ การเลือกจ่ายยอดขั้นต่ำดอกเบี้ยจะสูงทบตันไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกพีอาจมีหนี้ บัตรเครดิตจำนวนมาก หากจ่ายไม่ไหวให้ปิดบัตรเครดิตที่มีทุกใบ เพื่อหยุดการเพิ่มหนี้ แล้วทยอยชำระจนครบ


จ่ายเต็ม ฉลาดใช้ ไม่เป็นหนี้


1.ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อไม่ได้พกเงินสด


2.ใช้เมื่อรู้ตัวว่าสามารถจ่ายยอดเต็มจำนวนได้ 


3.ผ่อนชำระสินค้าได้ แต่ควรเลือกที่ผ่อน 0% และจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้ง


4.ระลึกไว้เสมอว่า บัตรเครดิตไม่ใช่แหล่งเงินกู้ เพราะอัตราดอกเบี้ยสูง

 

 

 

วางแผนออมเงิน


การออมเงินเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญมากๆในชีวิตวิถีใหม่ เพราะเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงหรือเกิดวิกฤตขึ้นกะทันหัน อาจส่งผลกระทบด้านการงานและการเงิน เช่น มีการลดวันทำงาน หยุดงาน หรือเลิกจ้าง ทำให้รายได้ลดหรืออาจขาดรายได้ไปเลย ถ้าไม่มีเงินออมจะใช้ชีวิตลำบากมาก ดังนั้นจึงควรเห็นความสำคัญของการออมเงิน เพื่อพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

 

พอพูดถึงเงินออม หลายคนอาจท้อแท้ เพราะแค่หาเงินมาให้พอใช้ก็ยากแล้ว แต่ถ้ามีความตั้งใจจริง ไม่ว่าจะอายุเท่าไร มีเงินแค่ไหน ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการออมเงิน

 

ปรับพฤติกรรมให้มีเงินออม


1.ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้


2.ยับยั้งชั่งใจ ไม่จำเป็นอย่าถอน


3.แยกบัญชีเงินเก็บกับบัญชีใช้จ่ายออกจากกัน

 

 


เทคนิคการออมเงิน

 

เก็บก่อน ใช้ทีหลัง


เวลาได้เงินมาแล้ว หลายคนคิดว่าเอาเงินมาใช้จ่ายก่อน แล้วเหลือเท่าไรค่อยเก็บ แบบนี้

 

รายได้ - ค่าใช้จ่าย = เงินเก็บ

 

ถ้าทำได้ก็มีเงินออมเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะทำไม่ได้เพราะเวลามีเงินติดกระเป๋าก็อาจจะใช้ซื้อของที่อยากได้หรืออยากกินจนหมด ดังนั้นเมื่อมีรายได้ควรแบ่งมาออมไว้ก่อนแล้วที่เหลือค่อยนำมาเป็นค่าใช้จ่าย โดยประเมินค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของตัวเองจากการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย แล้วคำนวณว่าจะออมเงินได้เท่าไร พอมีรายได้เข้ามาแล้วหักเงินเก็บไว้ก่อนเลย

 

รายได้ - เงินเก็บ = ค่าใช้จ่าย

 

การทำแบบนี้เป็นการสร้างวินัยให้มีเงินเก็บเป็นประจำ อาจจะเริ่มจากค่อยๆ สะสมทีละน้อย แต่รับรองว่าถ้าทำได้เรื่อยๆ จะมีเงินออมแน่นอน

 

 

ช้อปเท่าไร เก็บเท่านั้น


เทคนิคนี้สำหรับคนที่ชอบใช้เงินตามใจ ไม่ว่าจะเป็นการกินมื้อใหญ่ราคาแพงหรือช้อปปิ้งซื้อของฟุ่มเฟือย แล้วควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ เพราะค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้เงินซื้อของไม่จำเป็น การช้อปเท่าไรเก็บเท่านั้น จะช่วยให้ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

 

 

วางแผนการออมเงินเพื่อความมั่นคง


เมื่อเริ่มเก็บออมเงินได้แล้วให้ลองวางแผนสำหรับการออมเงินเพื่อการใช้จ่ายอย่างมั่นคง เพราะวัตถุประสงค์ของการออมเงินมีหลายประเภท

 

ออมเงินระยะสั้น เป็นเงินที่สะสมไว้ใช้ในระยะเวลา 1-2 ปี


วัตถุประสงค์ สำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล ใช้จ่ายสิ่งของจำเป็นกะทันหัน ใช้ในชีวิตประจำวันเมื่อขาดรายได้ เป็นต้น

 

 

ออมเงินระยะกลาง เป็นเงินที่สะสมไว้สำหรับระยะเวลา 2-10 ปี


วัตถุประสงค์ สำหรับสร้างความมั่นคง ได้แก่ ทุนการศึกษาสำหรับลูก ดาวน์บ้าน ดาวน์รถหรือการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ เป็นตัน

 

 

ออมเงินระยะยาว เป็นเงินที่สะสมไว้ใช้ในระยะยาวเกิน 10 ปีขึ้นไป


วัตถุประสงค์ เพื่อใช้ในวัยเกษียณ หรือไม่สามารถทำงานได้แล้ว

 

 


ตัวช่วยเรื่องการออม

 


กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)


กองทุนบำนาญสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่อยู่ในระบบสวัสดิการบำเหน็จ-บำนาญของรัฐหรือนายจ้าง เป็นการออมเพื่อใช้จ่ายในวัยเกษียณ ซึ่งเมื่อแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาออมกับ กอช. แล้ว จะได้รับเงินสมทบจากรัฐบาลสูงสุด 100% เมื่ออายุถึง 60 ปี จะได้รับเงินกลับคืนมาในรูปแบบเงินบำนาญ สำหรับใช้จ่ายยามเกษียณ

 

รายละเอียด


- มีอายุ 15-60 ปี

- ประกอบอาชีพอิสระหรือแรงงานนอกระบบ

- ยืดหยุ่น ไม่ต้องออมทุกเดือน มีน้อยออมน้อย มีมากออมมาก

- ออมสูงสุดปีละไม่เกิน 13,200 บาท


สนใจกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง ww.nsf.or. th

 

 


กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund 


เป็นกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างสมัครใจร่วมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นเงินสำรองสำหรับลูกจ้างยามเกษียณอายุ ออกจากงาน ทุพพลภาพ หรือเป็นหลักประกันให้ครอบครัวในกรณีลูกจ้างเสียชีวิต โดยแบ่งสะสมจากเงินเดือนของลูกจ้างเป็นประจำทุกเดือน 

 

รายละเอียด


- แบ่งเก็บสะสมตั้งแต่ 2-15% ของเงินเดือน

- นายจ้างจะจ่ายเข้ากองทุนเป็นเงินสมทบในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าเงินสะสมของลูกจ้าง

- ได้รับเงินก้อนเมื่อสิ้นสมาชิกภาพ ด้วยสาเหตุออกจากงาน, เกษียณอายุ,โอนย้ายกองทุน,เสียชีวิต

 

สามารถตรวจสอบข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับบริษัทที่ตนเองทำงานอยู่

 

 


ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.)


ทำหน้าที่ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับบริการทางการเงิน ให้คำปรึกษาและรับเรื่องร้องเรียน เพื่อคุ้มครองให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการทางการเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ

- ให้ความรู้เรื่องการวางแผนทางการเงิน การออม การลงทุน

- ให้ข้อมูลเรื่องการบริหารหนี้สิน เปรียบเทียบสินเชื่อกู้ในกรณีต่างๆ แก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน

- ปรึกษาเรื่องภัยทางการเงิน กลโกงหลอกโอนเงินทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ การเงินนอกระบบ

 

สอบถามข้อมูลหรือต้องการความช่วยเหลือ สายด่วน โทร. 1213 หรือ www.1213.or.th/th/Pages/default.aspx

 

 


สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)


ให้ข้อมูลด้านสิทธิผู้บริโภค ให้ข้อแนะนำและรับเรื่องร้องเรียน ในกรณีที่ผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสินค้าและบริการต่างๆ รวมถึงการบริการทางการเงินด้วย


- โดนทวงหนี้แบบไม่เป็นธรรม 

- โดนไฟแนนซ์ยึดรถยนต์ขายทอดตลาด

- การซื้อสินค้าเงินผ่อน

 

สอบถามข้อมูลหรือต้องการความช่วยเหลือ สายด่วน สคบ. โทร. 1166 หรือ wvw.ocpb.go.th

 

 

 

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล


คลินิกให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวสำหรับผู้ประสบปัญหาหนี้บัตรเครดิต สามารถขอคำปรึกษาที่สำนักงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซอยราชวิถี 7 วันทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.

 

และสามารถขอคำปรึกษาได้ตลอดเวลาที่เว็บไชต์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ในส่วนชมรมหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ www.consumerthai.org หรือติดต่อสอบถามข้อมูลและจองคิวขอคำปรึกษาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0-2248-3734-37

 

 

 


ข้อมูลจาก คู่มือชีวิต วิถีใหม่ สสส

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง