รีเซต

คลังดันแจก "เงินดิจิทัล" เข้า ครม. ปลายเมษายนนี้

คลังดันแจก "เงินดิจิทัล" เข้า ครม. ปลายเมษายนนี้
ทันหุ้น
17 เมษายน 2567 ( 16:38 )
16
คลังดันแจก "เงินดิจิทัล" เข้า ครม. ปลายเมษายนนี้

#ทันหุ้น - คลังดันแจกโครงการเงินดิจิทัลเข้าครม.ปลายเดือนเม.ย.นี้ “เผ่าภูมิ”มั่นใจใช้แหล่งเงินธ.ก.ส. ไม่ติดข้อกฎหมาย และไม่กระทบต่อปัญหาสภาพคล่อง ขณะที่ เตรียมส่งกฤษฎีกาตีความให้เกิดความชัดเจน ส่วนไทม์ไลน์แจกเงินยังเป็นไปตามกำหนดเดิม โดยจะเปิดให้ผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนไตรมาสสามและใช้จ่ายได้ไตรมาสสี่ปีนี้

 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยัน กรณีที่รัฐบาลจะใช้แหล่งเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาแจกจ่ายในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท หรือดิจิทัลวอลเล็ตจำนวน 1.72 แสนล้านบาทนั้น เป็นไปตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ และไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของธ.ก.ส.อย่างแน่นอน เนื่องจาก รัฐบาลมีวิธีบริหารจัดการสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

“กระแสการถอนเงินฝากจากบัญชีของธ.ก.ส.นั้น ไม่เป็นความจริง และจากการติดตามประเด็นดังกล่าว ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือมีการแห่เบิกเงินจากบัญชีธ.ก.ส.เลย อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนวิตกกังวล เพราะกว่าจะแจกจ่ายเงิน 10,000 บาท ช่วงปลายปี รัฐบาลมีวิธีบริหารจัดการแน่นอน"

 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพร้อมที่จะเดินหน้าเสนอโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทแก่ประชาชน โดยจะเสนอรายละเอียดของโครงการเข้าสู่การพิจารณาของคณะฐมนตรี(ครม.)ภายในเดือนเมษายนนี้ แม้ว่า หลายฝ่ายจะออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการแหล่งเงินของโครงการที่ส่วนหนึ่งจะนำมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ซึ่งมองว่า อาจจะขัดต่อกฎหมายของธนาคาร ซึ่งเรื่องนี้ ทางกระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วว่า สามารถใช้แหล่งเงินดังกล่าวได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมายของธนาคาร

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในข้อกฎหมาย และทำให้ทุกฝ่ายคลายข้อสงสัย ทางกระทรวงการคลังจะได้ระบุไว้ในเรื่องที่เสนอเข้าครม.ว่า ควรให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธ.ก.ส.เองก็ได้เข้ามาเป็นกลไกหลักในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในหลายโครงการ ทุกโครงการก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเกษตรกร ซึ่งรวมถึง โครงการนี้ด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ การใช้เงินของธ.ก.ส.ถือว่า เข้าข่ายการใช้จ่ายตามมาตรา 28 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ โดยรัฐบาลจะตั้งงบชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยให้แก่ธ.ก.ส.ในปีถัดๆไป ซึ่งการใช้จ่ายจริงจะเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2568 โดยคณะกรรมการของธนาคารจะต้องพิจารณาอนุมัติและเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง

 

แหล่งข่าวกล่าวว่า ในส่วนของสภาพคล่องนั้น กระทรวงการคลังได้ประเมินสภาพคล่องของธ.ก.ส.แล้วว่า อยู่ในระดับเพียงพอที่จะใช้จ่ายในโครงการดังกล่าวได้ โดยปัจจุบันสภาพคล่องของธ.ก.ส.มีอยู่มากกว่า 2 แสนล้านบาท ขณะที่ รัฐบาลกำหนดวงเงินที่จะใช้จ่ายในโครงการนี้ผ่านธ.ก.ส.จำนวน 1.72 แสนล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ ธ.ก.ส.สามารถระดมเงินฝากจากประชาชนได้เพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะเป็นผู้จ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์โดยไม่ต้องผ่านมายังรัฐบาลอีกทอดหนึ่ง

 

สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น มีอยู่จำนวน 17.2 ล้านคน จำนวน 8 ล้านครัวเรือน แต่ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จริงจะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับเกษตรกรที่มาลงทะเบียน และ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดทั้งในเรื่องของรายได้และอายุของผู้ได้รับสิทธิ์

 

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลนี้ จะใช้เงินประมาณ 5 แสนล้านบาท เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปคนละ 1 หมื่นบาท คาดว่า จะมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 50 ล้านคน โดยรัฐบาลจะเปิดให้ผู้ที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์มาลงทะเบียนในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ จากนั้น จะทำการโอนเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ์เพื่อใช้จ่ายในโครงการช่วงปลายปีนี้

 

ทั้งนี้ แหล่งเงินจะมาจาก 3 ส่วน คือ 1.งบประมาณปี 2567 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท 2.งบประมาณปี 2568 จำนวน 1.52 แสนล้านบาท และ 3.จากธ.ก.ส.จำนวน 1.72 แสนล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง