รีเซต

นักลงทุนยื่นฟ้องอีลอน มัสก์ ข้อหาปกปิดข้อมูลการซื้อหุ้น Twitter ในช่วงเดือนมีนาคม

นักลงทุนยื่นฟ้องอีลอน มัสก์ ข้อหาปกปิดข้อมูลการซื้อหุ้น Twitter ในช่วงเดือนมีนาคม
TNN ช่อง16
27 พฤษภาคม 2565 ( 19:24 )
92
นักลงทุนยื่นฟ้องอีลอน มัสก์ ข้อหาปกปิดข้อมูลการซื้อหุ้น Twitter ในช่วงเดือนมีนาคม

ความคืบหน้าหน้าเกี่ยวกับความพยายามเข้าซื้อกิจการบริษัททวิตเตอร์ (Twitter) ของมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ล่าสุดเจ้าตัวโดนกลุ่มนักลงทุนยื่นฟ้องในข้อหาจงใจปกปิดข้อมูลการซื้อหุ้น Twitter ในช่วงเดือนมีนาคม ส่งผลให้หุ้นมีราคาต่ำลงและอีลอน มัสก์เป็นฝ่ายได้รับประโยชน์จากการปกปิดข้อมูลดังกล่าว 


ตามกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ระบุไว้ว่าหากนักลงทุนซื้อหุ้นเกิน 5% ของจำนวนหุ้นบริษัทจะต้องรายงานให้คณะกรรมการทราบภายใน 10 วัน แต่ในกรณีการซื้อหุ้นของอีลอน มัสก์ นักลงทุนกล่าวหาว่าอีลอน มัสก์จงใจแจ้งการซื้อหุ้นช้ากว่าที่กฎหมายกำหนดและยังซื้อหุ้นต่อเนื่องจนมีสัดส่วน 9.2% ของจำนวนหุ้นบริษัท อาจส่งผลให้อีลอน มัสก์สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นลงได้กว่า 5,330 ล้านบาท โดยการซื้อหุ้นในราคาต่ำเกินจริง


ทางด้านของอีลอน มัสก์ ยังไม่ออกมาแสดงความเกี่ยวกับการฟ้องร้องของนักลงทุนดังกล่าว โดยมีเพียงการแต่งตั้งทีมทนายความเข้ามาดูแลคดี ทางด้านของบริษัททวิตเตอร์ (Twitter) ก็ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าว


กลุ่มนักลงทุนที่ยื่นฟ้องอีลอน มัสก์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเหตุผลอย่างหนึ่งที่ทำให้อีลอน มัสก์ พยายามหาทางซื้อหุ้นทวิตเตอร์ (Twitter) ในราคาที่ต่ำเกินจริง เนื่องจากมูลค่าหุ้นของบริษัท เทสลา (Tesla) ดิ่งจากราคาสูงสุด 34,127 บาท ต่อหุ้น ในช่วงเดือนเมษายน ลงเหลือ 23,888 บาท ต่อหุ้น ในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้อีลอน มัสก์ต้องการหาช่องทางในการลดค่าใช้จ่ายลง 


นอกจากนี้พฤติกรรมที่นักลงทุนมองว่าไม่ปกติของอีลอน มัสก์ ยังมีเพิ่มเติม เช่น ในสัปดาห์ที่ผ่านมาอีลอน มัสก์ ได้สั่งระงับการซื้อทวิตเตอร์ชั่วคราวจนกว่าจะได้รับจำนวนบัญชีผู้ใช้งานปลอมที่มีความชัดเจน แม้ว่าทางบริษัทวิตเตอร์ได้ทำการชี้แจงตัวเลขไปว่ามีบัญชีผู้ใช้งานปลอมบนทวิตเตอร์เพียง 5% เท่านั้น แต่ก็ไม่เป็นที่พึงพอใจของอีลอน มัสก์ ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ และส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียประโยชน์ หากศาลพิจารณาว่าอีลอน มัสก์มีความผิดจะต้องจ่ายเงินชดเชยและค่าเสียหายให้กับนักลงทุน 


ที่มาของข้อมูล theguardian.com 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง