ยืมเงินด่วน 50,000 บาท สินเชื่อผู้มีรายได้ประจำ "ออมสิน" สู้โควิด แค่มีบัญชีออมสินก็สมัครได้ อย่าหลงเชื่อ ไม่มีจริง
มาใหม่! สินเชื่อธนาออมสิน เปิดสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ยืมเงินด่วนฉุกเฉิน 50,000 บาท อนุมัติทุกคน หากใครที่เห็นโฆษณานี้ในเฟซบุ๊ก อย่าคลิก หรือลงทะเบียนสมัครสินเชื่อออมสิน เด็ดขาด เนื่องจากเป็นกลโกงมิจฉาชีพ เสี่ยงกู้เงิน แล้วไม่ได้เงินจริง โดยธนาคารออมสินได้ออกมาชี้แจงแล้ว
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลสินเชื่อประเด็นเรื่อง ธ.ออมสิน เปิดสินเชื่อฉุกเฉิน สำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 วงเงิน 50,000 บาท อนุมัติทุกคน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการโพสต์ข้อมูลสินเชื่อเมื่อต้นปี 2565 ระบุว่า ธนาคารออมสินปล่อยเชื่อฉุกเฉิน สำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 วงเงิน 50,000 บาท อนุมัติทุกคนแค่มีบัญชีของออมสินนั้น ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า ประเด็นดังกล่าว เป็นข่าวปลอม เนื่องจากสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำ ได้สิ้นสุดโครงการไปตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 การโพสต์ข้อความดังกล่าวธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ประการใด ประชาชนที่พบเห็นโพสต์หรือข้อความในลักษณะดังกล่าวโปรดอย่าได้หลงเชื่อ ขอให้งดแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จเหล่านั้น
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำ ได้สิ้นสุดโครงการไปตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 การโพสต์ข้อความดังกล่าวธนาคารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ประการใด
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : ธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนให้งดแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จไปในช่องทางสื่อโซเชียลต่างๆ และเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกสื่อโซเชียลโพสต์ข้อมูลหลอกลวง และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือหากมีข้อสงสัยข้อมูลเกี่ยวผลิตภัณฑ์ธนาคารออมสิน โปรดสอบถาม GSB Contact Center โทร.1115
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
5 ช่องทาง แจ้งเบาะแสข่าวปลอม
- เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com
- เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER
- ทวิตเตอร์ @AFNCThailand
- ไลน์ @antifakenewscenter
- ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599
ข้อมูลจาก Anti-Fake News Center Thailand
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<