คลังชงครม.ภายในเดือนนี้ ขอเพิ่มทุนการบินไทยรักษาสัดส่วนถือหุ้นเกิน40%

คลังพร้อมแปลงหนี้เป็นทุนในการบินไทย 100% จากมูลหนี้ 7-8หมื่นล้าน และเตรียมชงครม.ภายในเดือนนี้ขอเพิ่มทุน หวังรักษาสัดส่วนถือหุ้นเกิน 41% แต่ไม่ถึงขั้นกลับเข้าเป็นรัฐวิสาหกิจ คาดกระบวนการเสร็จสิ้นภายใน 11 ธ.ค.นี้

#THAI #ทันหุ้น นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน)หรือ THAIพร้อมที่จะใช้สิทธิ์แปลงหนี้เป็นทุนในการบินไทยทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยมูลหนี้ทั้งหมดมีอยู่ประมาณ 7-8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้เก่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563

ทั้งนี้ ตามแผนฟื้นฟูกินการของการบินไทยกำหนดให้เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุนแบบบังคับจำนวน 24.5% ส่วนที่เหลือ 75.5% ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าหนี้ ซึ่งเหตุผลที่กระทรวงการคลังพร้อมแปลงหนี้เป็นทุน เพราะประเมินว่า ขณะนี้ ผลประกอบการของการบินไทยดีขึ้นโดยลำดับ เมื่อบริษัทกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เจ้าหนี้สามารถขายหุ้นออกไปได้หลังจากครบกำหนดการถือหุ้น 1 ปี ขณะที่ หากรอรับการชำระคืนหนี้ จะต้องใช้เวลานานราว 11-12 ปี

“ข้อดีของการแปลงหนี้เป็นทุน คือ เมื่อเราถือหุ้นครบกำหนด 1 ปี และราคาหุ้นดีขึ้น เราสามารถขายหุ้นออกไป และได้เงินกลับมา แต่ถ้าเรารอการชำระหนี้ ต้องใช้เวลานาน แม้ว่า จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคืนเพิ่มอีก 1.5% ของมูลหนี้ก็ตาม”

เขากล่าวด้วยว่า เราก็เชื่อว่า ทางกลุ่มเจ้าหนี้ก็จะใช้สิทธิ์แปลงหนี้เป็นทุนเช่นเดียวกัน แต่จะมากหรือน้อยขณะนี้ยังไม่ทราบ ซึ่งเจ้าหนี้จะต้องแจ้งก่อนวันที่ 21 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ ทางการบินไทยจะต้องแจ้งรายละเอียดของสัดส่วนการแปลงหนี้ทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นรับทราบ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นนำมาประเมินว่า จะใส่เงินเพิ่มทุนในการบินไทยในสัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น

ทั้งนี้ ทางการบินไทยจะต้องแจ้งราคาขายต่อหุ้นสำหรับการเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะต้องนำข้อมูลเรื่องการแปลงหนี้เป็นทุนของเจ้าหนี้ทั้งหมดและราคาที่การบินไทยเสนอขายเพื่อเพิ่มทุน เพื่อนำมาประเมินว่า กระทรวงการคลังจะต้องใช้เงินในการเพิ่มทุนจำนวนเท่าไหร่เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้

เขากล่าวว่า ในหลักการของการถือหุ้นในการบินไทยนั้น กระทรวงการคลังไม่ต้องการให้มีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวนมาก เพราะไม่ต้องการให้การบินไทยกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีก แต่ก็ต้องรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไว้ไม่ให้น้อยเกินไป เพื่อให้มีอำนาจในการบริหารจัดการด้วย โดยสัดส่วนการถือหุ้นที่ต้องการคือระดับประมาณเกินกว่า 40% เล็กน้อย

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติการใส่เงินเพิ่มทุนในการบินไทย เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในระดับดังกล่าว โดยจะต้องเสนอภายในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อส่งเรื่องการเพิ่มทุนไปยังการบินไทยภายในวันที่ 11 ธ.ค.นี้

สำหรับการบินไทยนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมผลประกอบการเพื่อออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ คาดว่า จะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ภายในเดือนก.พ.2568 จากนั้น จะกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ราวเดือนพ.ค.2568