เช็กหลักเกณฑ์ใหม่ ใช้ "บัตรประชาชน" ลงทะเบียน "บัตรคนจน"
หลังที่ประชุมคณะกรรมการ ประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม มีมติเห็นชอบให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด แทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ นอกจากนี้ที่ประชุมเห็นชอบให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ ให้รอบคอบอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ตรงจุดมากที่สุด โดยให้นำรายได้ของครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาท มาคำนวณด้วยจากเดิมพิจารณาแต่รายได้ตัวบุคคล
ยกตัวอย่าง การคำนวณรายได้ครอบครัว คือ ครอบครัวหนึ่งมี สามีและภรรยา ยังไม่มีบุตร สามีมีรายได้ต่อปี 1.5 แสนบาท ภรรยามีรายได้ต่อปี 5 หมื่นบาท กรณีนี้สามีไม่มีสิทธิ์ได้รับบัตรคนจน เพราะรายได้ต่อบุคคลเกิน 1 แสนบาทต่อปี แต่ภรรยา มีสิทธิ์ได้รับบัตรคนจน เพราะมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี และรายได้ของครอบครัวไม่เกิน 2 แสนบาทต่อปี เป็นต้น
สำหรับคุณสมบัติผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เดิม มีดังนี้
1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำากว่า 18 ปีบริบูรณ์ มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
2. ไม่มีหรือมีทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝากธนาคาร สลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. พันธบัตร ตราสารหนี้ รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น
**** ขณะเดียวกันต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามกฎหมาย ถ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดิน จะต้องมีบ้านหรือทาวเฮ้าส์ พื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ส่วนห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร กรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรด้วยมีพื้นที่ได้ไม่เกิน 10 ไร่ หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ *****
ทั้งนี้หลังจากพิจารณาหลักเกณฑ์แล้วเสร็จ กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติ เพื่อประกาศใช้ โดยคาดว่าเมื่อประกาศใช้แล้วจะสามารถเริ่มลงทะเบียนรอบใหม่ได้ภายในต้นปีหน้า
โดยจะมีการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ โดยวางแผนตั้งจุดรับลงทะเบียน เนื่องจากกลุ่มผู้มีรายได้น้อยอาจไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และเพื่อคัดกรองบุคคลที่สมควรได้รับสวัสดิการจากรัฐเพิ่มเติมอย่างแท้จริง ซึ่งผู้ที่ถือบัตรคนจนในปัจจุบันจะต้องมาลงทะเบียนใหม่ ในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง ได้เตรียมจ้างนักศึกษาที่จบใหม่ประมาณ 10,000 คน เพื่อประจำจุดลงทะเบียน ทำหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือผู้มาลงทะเบียน โดยคาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 15 ล้านคน
ภาพจาก TNNONLINE