รีเซต

สารในเห็ดขี้ควาย อาจช่วยให้นักดื่ม “ลด” การดื่มลงได้ !?

สารในเห็ดขี้ควาย อาจช่วยให้นักดื่ม “ลด” การดื่มลงได้ !?
TNN ช่อง16
25 มิถุนายน 2568 ( 14:31 )
14

ผลวิจัยใหม่ “ไซโลไซบิน” (Psilocybin) สารที่พบใน "เห็ดขี้ควาย" เป็นหนึ่งในสารสำคัญที่ถูกนำมาวิจัยในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะอาการทางจิตเวช และระบบประสาท เช่น ภาวะซึมเศร้าและโรคเครียด

การวิจัยล่าสุดจากประเทศเดนมาร์กพบว่า “ไซโลไซบิน” สามารถนำมาใช้เพื่อลดอาการดื่มแอลกอฮอล์ลงได้ด้วย

มาเธียส เอ็บเบเซ่น เจนเซ่น (Mathias Ebbesen Jensen) นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการประสาทจิตเวชศาสตร์ที่ศูนย์จิตเวชศาสตร์โคเปนเฮเกน (Neuropsychiatric Laboratory at Psychiatric Center Copenhagen) ได้ศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของฮอร์โมนควบคุมน้ำตาลในเลือด GLP-1 ต่อความผิดปกติจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เขาจึงตัดสินใจศึกษาว่า ไซโลไซบินสามารถทำอะไรได้บ้างสำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอหนัก ๆ 

การเปลี่ยนแปลงเชิงควอนตัม ซึ่งเป็นแนวคิดที่นักจิตวิทยาของ วิลเลียม มิลเลอร์ (William Miller) อธิบายว่า "การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน รุนแรง และยั่งยืน ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้ความเข้าใจ และพฤติกรรมส่วนบุคคลในวงกว้าง" อาจถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานอย่างกะทันหันในค่านิยม และลำดับความสำคัญของบุคคล มากกว่าที่จะเป็นการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป

มาเธียส เอ็บเบเซ่น เจนเซ่น (Mathias Ebbesen Jensen)  มองว่าปรากฏการณ์ของการเปลี่ยนแปลงเชิงควอนตัม มีความคล้ายคลึงอย่างมากกับประสบการณ์ที่เกิดจากไซโลไซบิน ซึ่งบางทีอาจสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงควอนตัมด้วยไซโลไซบินได้ หรือก็คือ สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มของพวกนักดื่มอย่างรุนแรงได้

มาเธียส เอ็บเบเซ่น เจนเซ่น (Mathias Ebbesen Jensen)  ได้ศึกษานักดื่มจำนวน 10 ราย ที่มีมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 44 ปี

ทั้งหมดมีอาการผิดปกติจากการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายอย่าง และไม่เคยได้รับการรักษามาก่อน

การศึกษาประกอบด้วย 5 เซสชัน รวมถึงการบำบัดก่อนการให้ยา มีหนึ่งเซสชันที่ให้ไซโลไซบินในปริมาณสูง ก่อนนักดื่มจะต้องฟังเพลงนานกว่า 6 ชั่วโมง 

12 สัปดาห์ต่อมา พบว่านักดื่มกลุ่มนี้มีจำนวนวันที่ดื่มหนักลดลงโดยเฉลี่ย 37.5% พวกเขายังลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงเฉลี่ย 3.4 แก้ว ความอยากเริ่มลดลงเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังการรักษาและยังคงลดลง 3 เดือนหลังการรักษา

อย่างไรก็ตาม การวิจัยครั้งนี้ยังถือเป็นการวิจัยเล็ก ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมเพียง 10 คน โดยมีเพียง 2 คนที่เป็นผู้หญิง และไม่มีการทดสอบซ้ำ จึงมีโอกาสที่ผลการทดสอบดังกล่าว เกิดขึ้นเพราะผู้เข้าร่วมพยายามทำด้วยตัวเองด้วย เพราะทุกคนที่เข้าร่วมรู้ตัวว่าตัวเองกำลังถูกทดสอบอยู่

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทาง มาเธียส เอ็บเบเซ่น เจนเซ่น (Mathias Ebbesen Jensen)  จะเริ่มการทดสอบใหม่อีกครั้ง โดยจะเป็นการทดลองแบบสุ่ม และการควบคุมที่เข้มงวด เพื่อประเมินผลกระทบของไซโลไซบินต่อระบบประสาท ซึ่งวัดด้วยเทคนิคการสร้างภาพสมอง และเครื่องหมายเลือดของความยืดหยุ่นของระบบประสาท (blood markers of neuroplasticity)

ข้อมูล research.regionh.dk/

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง