รู้จัก “Nostalgia” อารมณ์โหยหาวันวาน คิดถึงการเป็นเด็ก

เมื่อย้อนนึกถึงความฝันวัยเด็ก แต่ละคนล้วนมีภาพฝันที่สวยงาม วัยเด็กจึงเป็นเสมือนช่วงวัยที่เราสามารถวาดฝันและจินตนาการไปได้ไกลเท่าที่เราอยากจะเป็น “ฉันอยากประสบความสำเร็จ อยากเป็นคนรวยที่สุขสบาย ดูแลครอบครัวและคนที่เรารักได้” ใคร ๆ ก็คงเคยมีฝันเช่นนี้
แต่เมื่อเติบโตขึ้น ความฝันกลับต้องหยุดพักไว้ เพราะเส้นทางในระหว่างการเติบโตนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและเงื่อนไข ที่บังคับให้เราต้องใช้ชีวิตโดยการเอาตัวรอดไปวัน ๆ พอได้มองย้อนกลับไปก็ทำให้รู้สึกเสียดายและตัดพ้อกับตัวเองอยู่เสมอ ถ้าวันนี้รู้สึกท้อ และรู้สึกว่าตัวเองสูญเสียความฝันไปแล้วจะทำอย่างไร? วันนี้เรามีคำแนะนำจาก “เบญญารัศม์ จันทร์เปล่ง” นักจิตวิทยาคลินิก Me Center มาฝาก
ทำไมเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แล้วรู้สึกโหยหาวันวานในวัยเด็ก ?
ผู้ใหญ่หลายคนมักรู้สึกโหยหาวันวานในวัยเด็ก อาจเป็นเพราะชีวิตในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความไม่สบายใจ ความคับข้องใจ ความอึดอัดใจ หรือมีความไม่มั่นคงต่างๆ ทำให้เรามีความคิดอยากหนีจากสิ่งเหล่านั้นไปสู่ช่วงเวลาดีๆที่เคยมี ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นในวัยเด็ก
เนื่องจากวัยเด็กเป็นเหมือนช่วงเวลาแห่งความสุขที่แท้จริง เราได้รับการดูแลเอาใจใส่ เราไม่ต้องรับผิดชอบอะไร และมีความเครียด ความกังวลที่ทำให้รู้สึกไม่ดีหรือเป็นทุกข์น้อยมาก ซึ่งแตกต่างจากชีวิตในวัยผู้ใหญ่ที่มีภาระ ความรับผิดชอบ และความเครียด ความกังวลที่มากจนลดทอนความสุขของเราลงไป การคิดถึงอดีตหรือโหยหาวันวานในลักษณะนี้ ทางจิตวิทยาเราเรียกว่า “Nostalgia”
“Nostalgia” มีทั้งประโยชน์และโทษ ประโยชน์ของมันคือการทำให้เราได้รู้สึกดีขึ้นในช่วงเวลาที่นึกถึง ทำให้มีกำลังใจ เห็นคุณค่าในตัวเองและพร้อมจะเผชิญในสิ่งที่เจออยู่ แต่ในขณะเดียวกัน โทษของมันคือการติดอยู่กับอดีตจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทำให้รู้สึกแย่ต่อตนเอง รู้สึกเศร้า สิ้นหวัง และท้อแท้ หมดพลังที่จะเผชิญกับสิ่งที่เจออยู่
ทำอย่างไรดี? ถ้าสถานการณ์ชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ ต่างจากที่เคยฝันไว้
เป็นเรื่องปกติที่สถานการณ์ในชีวิตจริงไม่ตรงกับที่เคยฝันไว้ อาจจะเนื่องจากมุมมองของเราเองที่เปลี่ยนไป หรือปัจจัยหลาย ๆ สิ่งที่มักเกิดขึ้นมาโดยที่เราควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเมื่อสถานการณ์ไม่เป็นดั่งฝัน เราควร…
1. ตั้งสติ ทำความเข้า และยอมรับในสถานการณ์ชีวิตปัจจุบัน อนุญาตให้ตัวเองแสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้เต็มที่ในพื้นที่ของตัวเอง ทั้งอารมณ์ทางด้านบวกและทางด้านลบ
2. ทบทวน วิเคราะห์ ในสิ่งที่เกิดขึ้น ดูว่าเพราะอะไรสถานการณ์ในชีวิตตอนนี้ไม่เป็นดั่งฝัน จากนั้นลองเอาสิ่งที่พบมาสร้างความฝันใหม่ ที่น่าจะเป็นไปได้จริง
รู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ และรู้สึกว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดี จะจัดการความคิดเหล่านี้อย่างไร?
ควรทำความเข้าใจและหยุดพักสักครู่ ความรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจ เป็นความรู้สึกด้านลบที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตของคนเรา ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะมีความรู้สึกนั้น หากมีให้ยอมรับและจัดการ ทั้งนี้ความรู้สึกดังกล่าวมักมาพร้อมกับความเหนื่อย ดังนั้นเราควรหยุดพักเพื่อให้ตัวเองได้หายเหนื่อยและมีแรงมากขึ้น
แยกความคิด/ความรู้สึกกับเรื่องจริงให้ออก และดูว่าสิ่งที่คิด/รู้สึก มันจริงหรือไม่? เพราะบ่อยครั้งที่เราอาจจะมองตัวเองจากอคติของตัวเอง หรือการเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วมาตัดสินว่าตัวเองทำได้ไม่ดีพอ หากจริงให้ทำการแก้ไข ปรับปรุง
เพิ่มกำลังใจให้ตนเอง ผ่านวิธีการต่าง ๆ ที่เคยทำ เช่น การฝึกชื่นชมตัวเอง การนึกถึงสิ่งต่างๆในอดีตที่เคยผ่านมาได้ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จที่ผ่านมา การผ่านอุปสรรคในชีวิต การผ่านปัญหาในการทำงาน ฯลฯ แต่หากยังอยู่ในช่วงอารมณ์ที่ไม่สามารถนึกถึงเรื่องดังกล่าวได้ ให้เลี่ยงการลดทอนกำลังใจตัวเอง ไม่โทษตัวเองหรือมองตัวเองในแง่ลบ
Self esteem ต่ำ เพราะทำฝันให้เป็นจริงไม่ได้ จะเรียกความมั่นใจกลับมาอย่างไรดี?
- เพิ่มความเมตตาต่อตนเอง (Self-Compassion) ไม่โทษตัวเอง ไม่กดดันตัวเอง ไม่ว่าตัวเอง ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
-เพิ่มกำลังใจตัวเอง ผ่านการนึกถึงสิ่งดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้น รวมถึงการขอกำลังใจจากผู้อื่นหรือคนใกล้ตัวก็ได้
- เพิ่มโอกาสให้ตัวเองในการทำฝันให้เป็นจริง ด้วยการคิดทบทวน หาสาเหตุ วิธีแก้ การพัฒนาตัวเอง รวมถึงการสร้างความฝันใหม่ที่สามารถทำได้จริง
หากสนใจปรึกษาจิตแพทย์ และนักจิตวิทยาคลินิก ติดต่อได้ที่
- Me Center คริสตัล ดีไซน์ เซนเตอร์ (CDC) ชั้น 2
โทร 085-355-2255
- Me Center ศูนย์สมองและสุขภาพจิต ชั้น 8 โรงพยาบาลอินทรารัตน์
โทร 02-481-5555 ต่อ 8300
- Line Official: @mecenter (https://lin.ee/mCheDsu)
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
