ส่องหุ้นกลุ่มยานยนต์ หลัง TESLA เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ระบุในบทวิเคราะห์ถึงหุ้นกลุ่มยานยนต์ หลังจากที่ TESLA เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในไทย 2 รุ่น ได้แก่ Tesla Model 3 (ราคา 1.759 – 2.309 ล้านบาท) และ Tesla Model Y (1.759 – 2.509 ล้านบาท) เปิดจองผ่านหน้า Website TESLA ประเทศไทย หรือที่ pop-up store ชั้น 1สยามพารากอน คาดส่งมอบรถยนต์ช่วงไตรมาส 1/66 โดยเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกในเชิงของการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าของไทย หลังค่ายรถยนต์จากจีนอย่าง GWM และ BYD เข้ามาเปิดตลาดในไทยช่วงก่อนหน้านี้ โดยประเมินการเปลี่ยนผ่านน่าจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานี Charge, ต้นทุน Battery ที่ลดลงของผู้ผลิตรถยนต์รวมถึงกำลังซื้อของคนในประเทศ
ทั้งนี้ ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในไทยใน 10 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 1.5 หมื่นคัน คิดเป็นสัดส่วนราว 2% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศ
**ผลกระทบยังจำกัด
ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส มองว่า ด้วยแนวโน้มสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่สูงมาก จึงคาด 5 ปีข้างหน้า ผลกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยยังจำกัด และยังมีเวลาในการปรับตัว อาทิ AH ที่เริ่มมีการผลิตชิ้นส่วนให้กับ EV (4% ของประมาณการยอดขายปี 2566), SAT จับมือกับพันธมิตรไต้หวันในการรุกชิ้นส่วน EV
นอกจากนี้ธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อย่าง BAY, KKP, TISCO และ TTB พร้อมให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นเทรนด์แห่งอนาคต แม้ผลต่อขนาดสินเชื่อยังไม่ใหญ่มาก
แต่ดีในด้านสิ่งแวดล้อม บวกต่อ ESG
**เลือกหุ้น SAT-TISCO เป็นหุ้นเด่น
สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่มฯ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เลือก SAT ให้ราคาเป้าหมายที่ 23 บาทต่อหุ้น จากจุดเด่นที่สถานะการเงินเป็น Net Cash จึงคาดหมาย Div Yield ราว 7% ต่อปี ขณะผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เลือก TISCO ให้ราคาเป้าหมายที่ 105 บาทต่อหุ้น ที่ประเมิน Div Yield สูงเป็นอันดับต้นๆ ของ SET100 ราว 8% อีกทั้งมีพัฒนการในการรุกธุรกิจ EV จากการเริ่มเป็น Captive (สินเชื่อ Floorplan) กับ GWM ในช่วงที่ผ่านมา