บุกจับนักโทษแหกคุกเรือนจำกระบี่ หนีกบดานตรัง นอนกอดปืนซุกขนำบ่อกุ้ง
จู่โจมบุกจับ “อานนท์” นักโทษแหกเรือนจำกระบี่ ได้ในขนำบ่อกุ้ง ขณะนอนหลับกอดปืนเตรียมต่อสู้ พร้อมพวกอีก 2 ราย ตรวจยึดอาวุธปืน เครื่องกระสุนได้อีกจำนวนมาก ขณะนักโทษชายอีกรายยังหลบหนีอยู่ระหว่างการไล่ล่า
จากกรณี นักโทษชาย นายอานนท์ เด็นหมาด อายุ 32 ปี และนายมณฑล ขันสมาน อายุ 47 ปี 2 นักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ ที่ก่อเหตุใช้ผ้าห่มจำนวน 3 ผืน มัดต่อกันก่อนจะโรยตัวหนีจากกำแพงที่ความสูง 5 เมตร จากเรือนจำจังหวัดกระบี่ ตั้งแต่ช่วงดึกของวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าวันนี้ 9 ต.ค.63 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง รายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ ตร.กก.สส. ภ.จว.ตรัง กก.สส.ภ.จว.กระบี่ กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และชุดปฎิบัติการพิเศษศรีตรัง ได้ผนึกกำลังร่วมกันจู่โจมเข้าตรวจสอบขนำไม่มีเลขที่ ภายในบ่อเลี้ยงกุ้ง บ้านบางค้างคาว-ทุ่งเสม็ด หมู่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.สิกา จ.ตรัง
หลังจากสืบทราบว่านักโทษชายทั้ง 2 ราย หลบหนีซุกซ่อนตัวอยู่ภายในขนำดังกล่าว ก่อนจะพบนายอานนท์ เด็นหมาน นอนหลับพร้อมทั้งกอดปืนอยู่บนเปลญวนภายในขนำดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงทำการจู่โจมเข้าจับกุมตัวโดยทันที โดยมีพฤติการณ์เตรียมพร้อมต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ส่วนนายมณฑล นักโทษชายอีกรายไม่พบภายในพื้นที่ดังกล่าว โดยยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี และอยู่ระหว่างการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พร้อมกันนั้นได้ควบคุมตัว ชายอีกจำนวน 2 รายซึ่งอยู่ภายในขนำดังกล่าวด้วย ก่อนจะนำตัวมาสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พร้อมทั้งตรวจสอบประวัติทางอาชญากรรม มีหมายจับติดตัว หรือมีพฤติการณ์ในการนำนักโทษหลบหนีหรือไม่อย่างไร และผู้ให้พักพิง
พฤติการณ์ในการเข้าจับกุมในครั้งนี้ สืบทราบว่า นักโทษรายดังกล่าวหลังจากหลบหนีออกจากเรือนจำ ได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.ตรัง และเปลี่ยนสถานที่ซุกซ่อนจำนวนหลายที่ ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในขนำดังกล่าวประมาณ 2-3 วัน และถูกจับกุมในที่สุด
ทั้งนี้ยังได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืน และเครื่องกระสุน จำนวนมาก พร้อมทั้งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อีกกว่า 3,000-4,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในขนำดังกล่าวอีกด้วย และมีการนำไปตรวจสอบประวัติทั้งหมด เบื้องต้นจะมีการนำตัวมาแถลงข่าว ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.63) ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป