จับได้แล้ว 1 ยังเหลืออีก 1 นักโทษแหกคุกสุพรรณบุรี วอนมอบตัว หนีไปก็ไม่รอด
มอบตัวแล้ว 1 นักโทษแหกคุกสุพรรณบุรี เผยทนคิดถึงลูก-เมียไม่ไหว กลัวติดโควิด จนท.เร่งตามล่าอีก 1 ราย วอนมอบตัว หนียังไงก็ไปไม่รอด
กรณีผู้ต้องขังชาย 5 คน หลบหนีออกทางเพดานอาคารเรือนนอนภายในเรือนจำชั่วคราวลาดสามร้อย ของเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องขังทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ อยู่ระหว่างการกักโรค ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ สามารถจับกุมกลับมาได้ 3 ราย และหลบหนีไปได้ 2 ราย คือ ข.ช.อาทิตย์ กลิ่นขจร และ ข.ช. สาคร เหมือนทิพย์ ฐานความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด นั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 ส.ค. กรมราชทัณฑ์ ได้รับรายงานจาก นายสมศักดิ์ เขียวอ่อน ผู้บัญชาเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรีว่า สามารถจับกุมผู้ต้องขังที่หลบหนีกลับมาได้อีก 1 ราย คือ ข.ช.สาคร เหมือนทิพย์ โดยภรรยาของผู้ต้องขังประสานมาว่า ข.ช.สาคร มีความประสงค์ขอมอบตัว เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้ ทางเรือนจำฯ จึงเดินทางไปรับตัวที่บ้านพักของภรรยา ข.ช.สาคร ในอ.หนองหญ้าไทร จ.สุพรรณบุรี กลับมายังเรือนจำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะนี้ ยังเหลือผู้ต้องขังที่ยังคงหลบหนีอีก 1 ราย คือ ข.ช.อาทิตย์ กลิ่นขจร ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือให้การสนับสนุนในการหลบหนี หรือให้ที่พักอาศัยจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน จึงขอความร่วมมือจากญาติและบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องขังเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว และหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 035-522-509 หรือ 080-071-4135 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายสิทธิ สุธวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอีกรายที่กำลังหลบหนีอยู่คือ นายอาทิตย์ กลิ่นขจร อายุ 24 ปี คดียาเสพติด ซึ่งเราพยายามติดต่อญาติและกดดันให้มอบตัว เราอยากให้มอบตัว ถึงหนีไปก็หนีไม่พ้นจนท. ซึ่งเราอยากให้ผู้ต้องหากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะได้รับความเป็นธรรมและปลอดภัย
ส่วนสาเหตุของการที่นักโทษแหกคุกครั้งนี้ อาจเป็นเพราะการรับผู้ต้องหาแรกเข้าต้องกักตัว 21 วัน ตามมาตรการ และไม่ได้รับการติดต่อกับญาติ และความเป็นอยู่ที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้เกิดความเครียด กดดัน จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว