รีเซต

รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย ประกาศใช้ "ภาวะภัยพิบัติ" ตร.ค้นบ้านได้ไม่ต้องมีหมาย

รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย ประกาศใช้ "ภาวะภัยพิบัติ" ตร.ค้นบ้านได้ไม่ต้องมีหมาย
TNN ช่อง16
5 สิงหาคม 2563 ( 16:10 )
138
รัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลีย ประกาศใช้ "ภาวะภัยพิบัติ" ตร.ค้นบ้านได้ไม่ต้องมีหมาย

วันนี้ (5 ส.ค.63) รัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย กลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 จนต้องเปลี่ยนจากการใช้ ภาวะฉุกเฉิน หรือ "state of emergency" ไปสู่ "ภาวะภัยพิบัติ" หรือ "state of disaster"

ทั้งนี้ ข้อบังคับจากการใช้ "ภาวะภัยพิบัติ" เริ่มจากมาตรการ Lock down อย่างเข้มงวด ด้วยการใช้มาตรการ "เคอร์ฟิว" หรือ การห้ามออกนอกเคหะสถาน นับตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 5.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่กลางใจเมืองของนครเมลเบิร์น แต่จะยกเว้นให้เฉพาะผู้ที่ต้องทำงานฉุกเฉิน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ โดยมาตรการเคอร์ฟิวจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 6 สัปดาห์

ส่วนในเวลากลางวัน ที่อยู่ในช่วงนอกเวลาเคอร์ฟิว จะอนุญาตให้ประชาชนออกจากเคหะสถานเท่าที่จำเป็น เช่น การซื้อสินค้า อาหาร เพื่อการดำรงชีวิต การออกกำลังกายประจำวัน และการออกไปทำงาน 

สำหรับการออกกำลังกาย จะทำได้ในรัศมี 5 กิโลเมตร จากบ้านพักของตนเอง และห้ามออกกำลังกายเกิน 1 ชั่วโมง อีกทั้งต้องออกกำลังกายเพียงผู้เดียว ห้ามรวมกลุ่ม

ในเรื่องของการซื้ออาหารและสิ่งของจำเป็น ข้อกำหนดที่สำคัญ ก็คือ ห้ามซื้ออาหารที่จำเป็น เกิน 2 หน่วยบริโภค ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ ,ผักสด ,ปลา และ กระดาษชำระ

นอกจากนี้ เพื่อให้การบังคับใช้ "ภาวะภัยพิบัติ" เป็นไปตามเป้าหมายนั้น รัฐวิกตอเรีย จึงเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถตรวจค้นบ้านเรือนประชาชนและเคหะสถานอื่นๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น เพื่อค้นหาผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิว เนื่องจากที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากไม่ได้กักบริเวณในบ้านของตนเอง

ส่วนโทษของการฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิว คือ การปรับเงิน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 156,000 บาท และทางรัฐวิกตอเรีย จะส่งทหารจำนวน 500 นาย เข้าสู่นครเมลเบิร์น เพื่อช่วยดูแลภาวะโรคระบาด

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่รัฐวิกตอเรีย จำนวน 725 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในวิกตอเรีย อยู่ที่ 12,335 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 15 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในวิกตอเรีย อยู่ที่ 147 ราย

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง