'ตลาดหุ้นเอเชีย' ปิดติดลบ หลังตลาด 'วอลสตรีต' ดิ่ง ราคาน้ำมันปรับตัวลง
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดตลาดติดลบอีกครั้ง เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ “ตลาดหุ้นวอลสตรีต” ที่ปรับตัวลงอีกระลอก ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาแผนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังจากขึ้นไปทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 7 ปี
ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลงมากที่สุดที่ติดลบ 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดนิวซีแลนด์ และไต้หวัน ปรับตัวลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ด้านเซี่ยงไฮ้, โซล, สิงคโปร์ รวมถึง มุมไบ ก็ปรับตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตามฮ่องกง ปิดตลาดปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย เช่นเดียวกับ มะนิลา และจาการ์ต้า ที่รับตัวขึ้นเช่นกัน
การปรับตัวลงในแดนลบของดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่เป็นผลต่อเนื่องมาจาก ดัชนีตลาดหุ้นวอลสตรีท 3 แห่งที่ต่างปรับตัวลงทั้งหมด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี ที่ปรับตัวลงมากที่สุด
ทั้งนี้การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐมีขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ และ ดับเบิลยูทีไอ ปรับตัวลดลงมากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลพบว่าสหรัฐอเมริกา มีสต็อกน้ำมันสูงที่สุดในรอบ 8 สัดาห์ ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินที่มีอยู่สูงกว่าที่คาดเอาไว้ด้วย
รายงานระบุว่าเวลานี้นักลงทุนกำลังรอการประชุมธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า โดยหวังว่าจะมีผลการประชุมที่ช่วยให้มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับกรอบเวลาในการปรับนโยบายทางเศรษฐกิจของสหรัฐให้กลับมาในสภาวะปกติอีกครั้ง