SCGP โบรกฯ หั่นราคาเป้าหมาย-กำไรลง หลังต้นทุนถ่านหินเพิ่ม

สาเหตุที่กังวลต่อผลดำเนินงานของ SCGP เนื่องจากแม้ราคาถ่านหินจะเริ่มอ่อนตัวลง และคาดผ่านจุดพีคแล้ว แต่ราคาปัจจุันยังค่อนข้างสูง ทำให้ประเมินต้นทุนถ่านหินโดยรวมของปี 2565 ของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้น 23% จากปีก่อน ขณะที่ค่าขนส่งที่อยู่ในระดับสูง คาดจำกัดการฟื้นตัวของ spread กระดาษ และจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่กลับมาสูงขึ้นในอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนาม อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและอุปสงค์บรรจุภัณฑ์ 

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัย เคทีบีเอสที ได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565 ของ SCGP ลง 12% เป็น 8.6 พันล้านบาท ซึ่งเติบโต 16% จากปีก่อน โดยเบื้องต้นประเมินกำไรปกติในไตรมาส 1 และ 2 ของปีนี้มีโอกาสสูงที่จะยังไม่ฟื้นตัวกลับไประดับที่อย่างน้อย 2 พันล้านบาทต่อไตรมาส 

โดยมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง แต่ in line กับตลาดหุ้นในช่วง 1 เดือน แม้ตลาดจะเริ่มคลายกังวลจากราคาถ่านหินที่เริ่มอ่อนตัว แต่ฝ่ายวิจัยแนะนำเพียงถือ เนื่องจากประเมินครึ่งแรกปีนี้จะยังฟื้นตัวช้า และครึ่งหลังมี downside หากต้นทุนยังทรงตัวสูง อีกทั้งมองว่าดีล M&P แรกจะเห็นความชัดเจนเร็วสุดในไตรมาส 2/65 ซึ่งคาดจะเป็นดีลในธุรกิจเดิม downstream packaging เช่น กล่องกระดาษ ทำให้อาจเป็น upside ต่อกำไรปี 2565 เพียงเล็กน้อย 

ราคาหุ้น SCGP เคลื่อนไหวอยู่ที่ 59 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มีมูลค่าการซื้อขาย 243.17 ล้านบาท