นักวิชาการแฉไลน์หลุด ผวจ.ภาคเหนือสั่งเพิ่มยอดไลก์ แชร์อำเภอละ 1 พัน ตีปี๊บผลงานโควิด-19
![นักวิชาการแฉไลน์หลุด ผวจ.ภาคเหนือสั่งเพิ่มยอดไลก์ แชร์อำเภอละ 1 พัน ตีปี๊บผลงานโควิด-19](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/03/25/42cd3c40-6e5a-11ea-b8a2-09037777d4af_original.png)
![นักวิชาการแฉไลน์หลุด ผวจ.ภาคเหนือสั่งเพิ่มยอดไลก์ แชร์อำเภอละ 1 พัน ตีปี๊บผลงานโควิด-19](https://cms.dmpcdn.com/news/2020/04/13/03221a80-7d4a-11ea-8f99-cd9a3968ebb2_original.jpg)
เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายบรรณ แก้วฉ่ำ นักวิชาการด้านกฎหมายและการกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.) อนุกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.จังหวัดจัดการตนเอง คณะกรรมาธิการปการครองท้องถิ่นฯ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือต้องการเผยแพร่ผลงานการแก้ไขปัญหาไวรัสโควิด-19 พิมพ์ข้อความในกลุ่มไลน์นายอำเภอ ระบุว่า เช้านี้ ผมไม่แน่ใจว่าข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของจังหวัด และในอำเภอต่างๆของจังหวัดนี้ ได้เข้าไปปฏิบัติราชการ กดไลก์กดแชร์ เฟซบุ๊กของผู้ว่าฯ แล้วหรือยัง
คำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดแห่งหนึ่ง สั่งในไลน์ และมีผู้แค๊ปจอโทรศัพท์ ส่งมาให้ผมดู มีข้อความดังนี้ ฝากกด like กด share fa ผวจ.อำเภอละ 1000 คน ให้กดทุกวันและให้รายงานให้ ผวจ.ทราบทุกวัน “ให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด .ผมมีหลักฐานแบบที่ยังไม่ปกปิดชื่อที่มีผู้ส่งมาให้ในกล่องข้อความ ไม่รู้จริงหรือเท็จและใช้แถบแดงปิดชื่อเอง
การกดไล้กดแชร์ เฟซบุ๊ก ของคุณผู้ว่าฯ คงจะให้ถือเป็น งานราชการอย่างหนึ่ง และใช้ในการประเมินความดีความชอบที่ผ่านมา ผมเองก็ได้เห็นความดี ความสามารถของผู้ว่า หลายจังหวัด ที่เป็นแบบนี้คงจะเป็นส่วนน้อย แต่ควรให้ประชาชนในแต่ละจังหวัด เขามีสิทธิเลือกผู้ว่าของเขาเองดีกว่าครับ ความใส่ใจต่อประชาชน ความผูกพันต่อประชาชนในเขตจังหวัดนั้น ๆ คงจะดีกว่านี้