อนุกมธ.กระจายอำนาจยันพร้อม "เลือกตั้งท้องถิ่น" งบปี' 63 มีพร้อมจัด
อนุกมธ.กระจายอำนาจยันพร้อม “เลือกตั้งท้องถิ่น” งบปี’ 63 มีพร้อมจัด
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน นายบรรณ แก้วฉ่ำ นักวิชาการด้านการกระจายอำนาจ ในฐานะอนุกรรมาธิการและเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อรับฟังความเห็นและประเมินความพร้อมการจัดการเลือกตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทุกประเภท ก่อนนำเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณาความเหมาะสม ที่ประชุมได้หารือว่าควรจัดเลือกตั้งท้องถิ่นประเภทใดก่อนหรือหลัง รวมทั้งปัญหาที่อาจจะกระทบกับความมั่นคงและการเมืองระดับชาติ
“ได้เสนอให้มีการจัดเลือกตั้งท้องถิ่น โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม เริ่มจากกรุงเทพมหานคร ท้องถิ่นในรูปแบบพิเศษกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สามารถจัดพร้อมกันได้ ขณะที่เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเมืองพัทยา เป็นอีกกลุ่ม ที่อาจจะจัดพร้อมกันได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกพร้อมกัน สำหรับประเด็นควรเลือกตั้งประเภทใดก่อน ยืนยันว่า อปท.ทุกประเภทสามารถจัดเลือกตั้งทันที โดยเทียบให้เห็นกรณีหมดวาระตามปกติ มีเวลาเพียง 45 วัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมความพร้อมได้ทัน แต่ที่ผ่านมา ได้เตรียมความพร้อมนานกว่า 8 ปี” นายบรรณ กล่าว
นายบรรณ กล่าวว่า ที่ประชุมสอบถามว่า จะมีอุปสรรคเรื่องงบประมาณหรือไม่ และจะต้องรองบประมาณ ปี 2564 หรือไม่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าสามารถใช้งบประมาณปี 2563 จัดเลือกตั้งได้ทันที จากนั้นมีการตั้งข้อสังเกตถึงความจำเป็นเร่งด่วนต่อประชาชน โดยยกตัวอย่างกรณีโควิด-19 จะเลือกตั้งประเภทใดก่อน ได้เสนอความเห็นว่า ระดับที่ใกล้ชิดกับประชาชน คือ อบต.กับเทศบาล จำเป็นเร่งด่วนกว่า อบจ. โดยทำให้ประชาชนยอมรับในตัวผู้บริหารและสมาชิกที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้ง มีแนวโน้มที่จะให้ความร่วมมือกับการขับเคลื่อนการแก้ปัญหา แต่โดยทางปฏิบัติจะต้องรัฐบาลควรจัดสรรงบมาให้ อปท.โดยตรง และปรับแก้ระเบียบปฏิบัติให้ชัดเจน
“สำหรับการเมืองระดับชาติ ครั้งนี้ชัดเจนว่าการเลือกตั้ง อบจ.จะมีผู้สมัครในนามพรรคการเมืองมากกว่าการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งที่ผ่านมา และเมื่อมีการแข่งขันการหาเสียง ก็จะต้องพาดพิงถึงนโยบายรัฐบาล ซึ่งจะกระทบต่อระดับการเมืองระดับชาติอย่างแน่นอน และหากไม่สนใจจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเว้นช่วงมาหลายปี จะเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะใช้สิทธิเลือกผู้นำท้องถิ่น โดยการพิจารณาจัดการเลือกตั้งจะต้องคำนึงถึงประชาชน ไม่ใช่คำนึงถึงความพร้อมในการสรรหาผู้สมัครของพรรครัฐบาลมาลงสมัครในการเลือกตั้งท้องถิ่น” นายบรรณ กล่าว