อปท.ระส่ำ! โควิด-19 ทำรายได้ลดฮวบ เตรียมปลด พนง.-ลดงบนมโรงเรียน-อาหารกลางวัน นร.
อปท.ระส่ำ! โควิด-19 ทำรายได้ลดฮวบ เตรียมปลด พนง.-ลดงบนมโรงเรียน-อาหารกลางวัน นร.
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม รายงานข่าวจากสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ เปิดเผยว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ทั่วประเทศ โดยเฉพาะ อบต.และเทศบาล กำลังประสบปัญหาสถานการณ์การเงิน หากไม่มีเงินสำรอง อาจจะต้องมีการปลดพนักงาน หรือชะลอการรับโอนข้าราชการ ในปีงบประมาณ 64 จะประสบปัญหามาก เพราะเงินจะหายไปมาก นมโรงเรียนและอาหารกลางวันเด็กนักเรียน ที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงบประมาณ ขาดไปหายร้อยละ 40 เงินอุดหนุนผู้สูงอายุที่ไม่เพียงพอลดลงอีก
รายงานข่าวว่า ที่มาของรายได้ อปท.จาก 3 ทาง คือ ภาษีโรงเรือน ขณะนี้เป็นกฎหมายที่ดินและสิ่งก่อสร้าง 2 ภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บแล้วแบ่งให้ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตและ 3 คือส่วนที่เป็นเงินอุดหนุน ทั้ง 3 ส่วนเกิดปัญหาทั้งหมด คือภาษีโรงเรือน อบต.และเทศบาลจัดเก็บเอง รัฐบาลสั่งยกเลิกกฎหมายเก่า แล้วไปออก พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งก่อสร้างใหม่ โดยใช้เหตุผลว่าจะทำให้มีรายได้กับเทศบาล และ อบต.มากขึ้น
“รัฐบาลได้สั่งชะลอ ทำให้ เทศบาล และ อบต.ไม่สามารถเก็บรายได้มาตั้งแต่ปี 62 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 2 ปี และเพิ่งจะมีคำสั่งให้จัดเก็บได้ในเดือน ส.ค.63 แล้วรัฐบาลได้สั่งให้ลดภาษีเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากกระทบโควิด-19 ให้ลดภาษีลงร้อยละ 90 เหลือร้อยละ10 เข้าท้องถิ่น รายได้ที่ท้องถิ่นเก็บเองก็แทบจะหายไป ในส่วนที่รัฐจัดเก็บแล้วแบ่งมาให้คือภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณมีแค่ร้อยละ 40 “
รายงานข่าวว่าเดือน ส.ค. รัฐบาลโอนงบมาให้ลดลงกว่าร้อยละ 70 จากเดิมที่เคยได้ ซึ่งเทศบาล และ อบต.ทั่วประเทศก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน ภาษีสรรพสามิตก็หายไปจากกรณีการระบาดโควิด-19 และในส่วนของเงินอุดหนุนที่รัฐบาลให้ประมาณร้อยละ 90 เป็นเงินที่ท้องถิ่นไม่สามารถนำออกมาใช้ได้ เพราะเป็นเงินที่จะต้องใช้จ่ายตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
“รัฐให้ อปท.นำเงินสะสมไปจ่าย แต่ เงินสะสมที่ อปท.เก็บเอาไว้ ได้มาจากเงินที่เหลือจากการประกวดราคานำมาสะสมเอาไว้ เพื่อใช้ในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน และเมื่อสะสมได้เงินก้อนโตขึ้นมา จะสามารถนำไปทำโครงการขนาดใหญ่ที่สามารถพลิกเมืองได้ เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม”
รายงานข่าวว่ารัฐบาลพยายามผลักภาระให้ อปท. ซึ่งรัฐควรที่จะสนับสนุนจัดสรรงบให้ได้ตามนโยบายของรัฐเอง เทศบาลมี 2 ทางให้เลือกคือ ถ้าไปช่วยดูแลเด็กก็จะไม่มีเงินเดือนไปจ่ายพนักงาน ถ้าเราจ่ายเงินเดือนพนักงานก็จะไม่สามารถดูแลเด็กได้
รายงานข่าวว่าส่วนการแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดกับ อปท.โดยเฉพาะ เทศบาลและ อบต. รัฐบาลต้องปลดล็อกกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะในเรื่องการใช้จ่ายเงินสะสม เพราะขณะนี้แม้จะมีเงิน แต่ก็นำไปใช้ไม่ได้ เพราะถูกกันเอาไว้ ต้องคลายล็อกก่อน รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.เงินกู้ เงินส่วนหนึ่งนำมาอุดหนุนท้องถิ่น เฉพาะในส่วนที่เป็นนโยบายของรัฐ เช่นเบี้ยยังชีพคนพิการ อาหารกลางวันเด็ก เงินผู้สูงอายุ นมโรงเรียน ที่รัฐควรจะดูแลก่อน และที่สำคัญคือรัฐบาลควรปฏิรูประบบราชการทั้งหมด
“มี เทศบาลและ อบต.หลายแห่ง จะไม่มีเงินจ่ายพนักงาน ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังตามมา สุดท้ายเพื่อความอยู่รอดต้องมีการลดรายจ่ายประจำลง แต่ยังกระทบพอสมควร”