บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ไฟเขียวโยกงบประมาณ 4.2 หมื่นล้าน ที่เหลือจากงบกระตุ้น 1.57 แสนล้าน ใช้รับมือภาษีทรัมป์

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ระบุว่า ที่ประชุมได้อนุมัติการจัดสรรงบประมาณส่วนที่เหลือจากวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 157,000 ล้านบาท จำนวนประมาณ 42,000 ล้านบาท เพื่อใช้รับมือผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ หรือภาษีทรัมป์

โดยเม็ดเงินดังกล่าวจะเน้นจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME พยุงการจ้างงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทย พร้อมกันนี้ยังจัดสรรงบประมาณจำนวน 10,000 ล้านบาทเข้าสู่กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อใช้ในการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ และปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมให้กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ก.ย.ศ.) เพื่อช่วยนักเรียน-นักศึกษาในการศึกษาในภาคเรียนถัดไป ซึ่งจะสามารถกระจายเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก่อนการประชุม นายภูมิธรรมได้กล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างของประเทศไทยที่ยังเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ และมีสัดส่วนการลงทุนภาครัฐ-เอกชนต่อ GDP ต่ำ จำเป็นต้องเร่งแก้ไขผ่านการใช้งบประมาณเพื่อฟื้นฟูและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับข้อเสนองบประมาณจากกระทรวงมหาดไทยที่จะจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นั้น ที่ประชุมมีมติไม่อนุมัติ เนื่องจากอาจดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไม่ทันกรอบเวลา 30 กันยายน 2568 และซ้ำซ้อนกับงบประมาณปี 2569 ที่จะเริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยขอให้ไปใช้แหล่งงบประมาณอื่นแทน