'ปศุสัตว'ประเดิมฉีดวัคซีนป้องกันกาฬโรคม้าแห่งแรกในไทย ที่จ.เพชรบุรี
นายสัตวแพทย์สรวิธ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงความคืบหน้า การควบคุม ป้องกันและควบคุมโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า (เอเอชเอส) ว่า ได้สั่งการให้สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ และปศุสัตว์จังหวัดเพชรบุรีร่วมกับสัตวแพทย์สถานเสาวภา ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้าแห่งแรกของประเทศไทยที่สถานีเพาะเลี้ยงม้าและสัตว์ทดลอง สถานเสาวภา สภากาชาดไทย อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 560 ตัว เนื่องจากเป็นสถานที่ทั้งก่อนและหลังการฉีดวัคซีน ตลอดจนการดูแลม้าภายหลังการฉีดวัคซีนเป็นไปตามมาตรการหลักเกณฑ์การใช้วัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวของกรมปศุสัตว์
ทั้งนี้ สถานีเพาะเลี้ยงม้าและสัตว์ทดลอง สถานเสาวภา สภากาชาดไทย ยังเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงม้าที่ใช้ในการผลิตเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 140,000 ขวดต่อปี และเซรุ่มแก้พิษงูเพื่อรักษาผู้ที่ถูกงูกัด ทั้งสำหรับงูพิษเดี่ยว และรวมพิษงูระบบโลหิต 100,000 ขวดต่อปี ซึ่งการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นำกำลังจิตอาสาจาก มณฑลทหารบกที่ 15 ร่วมทำมุ้งป้องกันแมลงดูดเลือดมากัดม้าภายหลังการฉีดวัคซีนอีกด้วย
นอกจากนี้ จะดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ม้าในรัศมี 50 กิโลเมตรจากจุดเกิดโรค ใน 7 จังหวัดที่พบการระบาดของโรค โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน เป็นต้นไป ซึ่งได้จัดประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจกับปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์เขต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินการอีกด้วยเพื่อให้การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมและทำให้โรคสงบโดยเร็ว
นายสัตวแพทย์สรวิธ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันหลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อนอีกทั้งใกล้เข้าสู่ฤดูฝน ภาวะดังกล่าวเป็นสาเหตุทำให้แมลงที่เป็นพาหะของโรคเพิ่มสูงขึ้นเสี่ยงที่จะเกิดโรค ดังนั้นขอให้ผู้เลี้ยงม้าป้องกันแมลงดูดเลือดมากัดม้า อีกทั้งกำจัดแมลงและแหล่งเพาะพันธุ์แมลง หมั่นดูแลสุขภาพม้า หากพบมีอาการ ซึม ไม่กินอาหาร มีไข้ ตาแดง ขอบตาและขมับบวม ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด เพื่อควบคุมโรคอย่างทันท่วงที