EGCO กำไร 2,462 ลบ. เพิ่มขึ้น 4% โบรกมองต่างมุม บล.เคจีไอปรับคำแนะนำ
#EGCO #ทันหุ้น - บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีกำไรสุทธิ 2,462.08 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.68 บาท เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,372.59ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.51 บาท
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน 2567 มีกำไรสุทธิ 5,517.62 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 10.48 บาท ลดลง 6% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,854.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 11.12 บาท
.
บล.กสิกรไทยระบุว่า EGCO กำไรปกติไตรมาส 3/2567 เป็นไปตามคาด EGCO รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2567 ที่ 2.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 4% YoY และ 77% QoQ หากไม่รวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และผลกระทบจากการรับรู้รายได้สัญญาเช่าแล้ว กำไรปกติอยู่ที่ 3.6 พันลบ. เพิ่มขึ้น 8% YoY และ 98% QoQ สอดคล้องกับประมาณการของเรา ปัจจัยหนุนหลักที่ส่งผลให้กำไรปกติเติบโตเชิง YoY ได้แก่ 1) การเข้าซื้อกิจการ Compass (กลุ่มโรงไฟฟ้าก๊าชในสหรัฐฯขนาด 652 MWe) ในเดือน ม.ค.2567 2) ยอดขายโครงการที่เพิ่มขึ้นจาก APEX (โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในสหรัฐฯ) และ 3) ปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ ขณะที่กำไรที่เดิมโตเชิง QoQ สาเหตุหลักมาจากปัจจัยตามฤดูกาล โดยไตรมาส 3เป็นช่วงไฮซีซันของสินทรัพย์พลังงานน้ำใน สปป.ลาว และโรงไฟฟ้าก๊าชในสหรัฐฯของ EGCO รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าที่น้อยลงในช่วงเวลาดังกล่าว
โรงไฟฟ้า Yunlin จะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบภายในสิ้นปี 2567
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ในไต้หวัน ดำเนินการแล้วเสร็จ 99.6% โดยมีกังหันลม 67 ตัว จากทั้งหมด 80 ตัวที่เริ่มเดินเครื่องแล้ว และอีก 13 ตัวที่เหลือ มีกำหนดจ่ายไฟเข้าระบบเสร็จภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าทางบัญชีของโครงการในงบดุลของ EGCO อยู่ที่เพียง 3.2 พันลบ. หลังจากมีการบันทึกค่าเสื่อมราคาก้อนใหญ่ในปี 2565-66
แนวโน้มกำไร สำหรับไตรมาส 4/2567 บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต YoY โดยได้รับแรงหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ และส่วนแบ่งผลขาดทุนจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม Yunlin ที่ลดลง ซึ่งขาดทุนจำนวนมากในไตรมาส 4/2566 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรปกติจะลดลง QoQ จากปัจจัยตามฤดูกาล เนื่องจากโรงไฟฟ้าหลายแห่งผ่านช่วงไฮซีซั่นของไตรมาส 3 มาแล้ว
บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 125 บาทมูลค่าหุ้น EGCO ดูน่าสนใจ โดยซื้อขายด้วย PER และ PBV ปี 2567 ที่ 8.2 เท่า และ 0.55 เท่า ตามลำดับ นอกจากนี้ หุ้นยังเสนออัตราตอบแทนเงินปันผลต่อที่ประมาณ 5-6%
.
บล.เคจีไอ : EGCO ยังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ
บล.เคจีไอระบุว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/67 ของ EGCO ตรงตามคาด โดยที่กำไรหลักงวด 9 เดือนที่ 67.0 พันลบ. (-7%YoY) คิดเป็น 82% จากประมาณการเต็มปี 2567 ของเรา กำไรเติบโต YoY มาจากการรับรู้ผลดำเนินงานโครงการใหม่ในสหรัฐฯ และอินโดนีเชียครั้งแรก และโครงการ QPL ที่กำไรดีขึ้น อย่างไรก็ดี เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567-2569 ขึ้น 29-38% จากบางโครงการที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังเผชิญกับความเสี่ยงจากการด้อยค่าที่อาจเกิดขึ้นและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบต่าง ๆ ด้วย ทั้งนี้ เราปรับลดคำแนะนำ EGCO ลงเป็น "ขาย"ด้วยราคาเป้าหมายที่ 101 บาท สะท้อน WACC ที่สูงขึ้น และความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น
กำไรหลักงวด 9 เดือน 2567 ที่ 7.0 พันลบ. (-7%YoY) คิดเป็น 82% ของกำไรหลักปี 2567 กำไรที่พุ่งขึ้นแรง QoQ มาจาก: i) โรงไฟฟ้า IPP ของ Paju ES และ KEGCO แข็งแกร่งขึ้น (ปิดซ่อมบำรุงลดลง) ii) เป็นฤดูกาลที่ดีของโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างๆ (XPCL และ NTPC) และโรงไฟฟ้าก๊าซต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ส่วนกำไรเพิ่ม YoY เป็นเพราะ: i) การรับรู้รายได้ครั้งแรกจาก Compass ในสหรัฐฯ และ CDI ในอิน โดนีเชีย ii) ยอดขายโครงการต่าง ๆ สูงขึ้นของ Apex ในสหรัฐฯ และ iii) การดำเนินงานของ Quezon เเข็งแกร่งขึ้น (capacity factor สูงขึ้น)
การปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567-2569 ขึ้นและแนวโน้มไตรมาส 4/67
บล.เคจีไอปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2567-2569F ขึ้น 29-38% ส่วนใหญ่เพื่อสะท้อนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES และ KEGCO แข็งแกร่งขึ้น แม้จะถูกหักลบบางส่วนจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและ XPCL ชะลอตัว หลังการปรับประมาณการใหม่ คาดกำไรหลักปี 2567F ของ EGCO ลดลง 2% YoY จาก XPCI และ KEGCO ชะลอตัวรวมถึงภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ก่อนจะลดลงอีก 8% YoY ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ OPL ที่สิ้นสุดลงในเดือนพ.ค.68 มองไปในไตรมาส 4/67 เราคาดว่ากำไรหลักจะลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่เพิ่มขึ้น YoY จากการรับรู้ดีล M&A รวมทั้งพอร์ตของ Compass และ CDI แม้ว่าในขณะนี้ กำไรสุทธิอาจมีความเสี่ยงจากการด้อยค่าที่ขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของโครงการ Yunlin และ QPL
ยังเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายในระยะใกล้ถึงระยะกลาง
EGCO เข้าสู่ไตรมาส 4/67 พร้อมกับความเสี่ยงรุมเร้าของการด้อยค่าต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นของโครงการ Yunlin และ OPL หากไม่สามารถดำเนินการ COD ได้และการต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA)ได้ทันเวลา ส่วนโครงการ QPL มีค่าความนิยมคงเหลืออยู่ 3.5 พันลบ. ในขณะที่ Yunlin เพิ่งได้รับเงินทุนเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ เรามองเห็นความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐฯ ของ EGCO (1.2 GWe คิดเป็น 18% ของกำลังการผลิตทั้งหมด) เนื่องจากการเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์อาจนำไปสู่ราคาก๊าซ Herry Hub ลดลงหรือเพิ่มความผันผวนขึ้น ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร อีกทั้ง EGCO อาจไม่ได้รับประ โยชน์อย่างเต็มที่จากการประมูลพลังงานทดแทนรอบที่สองของไทย (3.6 Gw) เนื่องจากมุ่งหนุนการขยายธุรกิจในต่างประเทศและมีประวัติการดำเนินงานที่อ่อนแอกว่าคู่แข่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.4x โดยรวมแล้ว เราคาดว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะลดลงในระยะใกล้ถึงระยะกลางจนกว่าจะมี catalyst บวกที่แข็งแกร่งขึ้น
Valuation & Action
บล.เคจีไอปรับลดคำแนะนำ EGCO ลงเป็น "ขาย" จาก "ซื้อ" และปรับลดราคาเป้าหมายลงใหม่เหลือ 101 บาท จากเดิม 138 บาท สะท้อนการขยับราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2568 และปรับ WACC เฉลี่ยสูงขึ้นที่ 5.5% (จาก 5.1%) จากความน่าจะเป็นสูงขึ้นของการด้อยค่าและความผันผวนของกำไรจากรายการพิเศษต่าง ๆ การรับรู้รายได้จาก Paju ES โรงไฟฟ้าก๊าซ และโครงการต่าง ๆที่ขายในสหรัฐฯ
Risks
ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overrun และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเเละอัตราดอกเบี้ย