"หมอยง" พบ 8 อาการโควิด-19 เปลี่ยนไปจากเดิมในช่วงระยะเวลา 3 ปี
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เผย อาการโควิด-19 เปลี่ยนไปจากเดิม ระยะฟักตัวของโรคสั้นลง อยู่ที่ 3 วัน ส่วนอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รสพบได้น้อยมาก แต่พบอาการสำคัญ คือ "เจ็บคอมาก" เหมือนมีอะไรบาด และมีอาการไอ
วันนี้ (10 ต.ค.65) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Yong Poovorawan" ในประเด็น "โควิด-19 อาการของโรคเปลี่ยนไปจากเดิม"
โดยระบุว่า ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ลักษณะอาการของโรคได้มีการเปลี่ยนแปลง
1. ระยะฟักตัวของโรคสั้นลง จากการศึกษาในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์เดลต้ากับสายพันธุ์ "โอมิครอน" ระยะฟักตัวของโรคสั้นลงมาอยู่ที่ ประมาณ 3 วันในระยะหลังนี้
2. ความรุนแรงลงปอดทำให้เกิดปอดบวม จะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยยุคแรกสายพันธุ์อู่ฮั่น มีอัตราการลงปอดฉายภาพรังสีปอดจะมีฝ้าพบได้บ่อย แต่ในปัจจุบันการลงปอดลดน้อยลง หรือแปลว่า ความรุนแรงลดน้อยลง
3. แต่เดิมอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส พบได้บ่อยมาก แต่ปัจจุบันนี้อาการดังกล่าวพบน้อยมาก
4. อาการไข้แต่เดิมเราพบได้บ่อย จะเห็นว่าเราใช้หลักการตรวจอุณหภูมิ ในการตรวจกรองในสถานที่ต่างๆ ปัจจุบันไม่สามารถใช้ได้ เพราะในปัจจุบันนี้อาการไข้จะเป็นอยู่ 1-2 วัน และมีจำนวนมากแก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไม่มีไข้
5. อาการสำคัญ ขณะนี้คือ "เจ็บคอมาก" เหมือนมีอะไรบาด และมีอาการไอ เป็นอาการสำคัญของการอักเสบในลำคอ
6. การติดต่อหรือแพร่กระจาย เกิดขึ้นได้ง่าย จะเห็นว่าเมื่อมีผู้ป่วยจะเป็นการติดทั้งครอบครัว เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ในยุคแรกผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ ในระยะหลังนี้ เด็กจะมีอาการน้อยและสามารถกระจายโรคได้มาก
7. การระบาดของโรคมีแนวโน้มไปตามฤดูกาลแบบไข้หวัดใหญ่
ในซีกโลกเหนือเช่นยุโรปและอเมริกาจะมีการระบาดมากตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นฤดูหนาว และประเทศซีกโลกใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จะมีการระบาดมากในฤดูหนาว เช่นกัน ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน
สำหรับประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน ไม่มีฤดูหนาวที่แน่ชัด การระบาดพบได้ตลอดทั้งปี แต่การระบาดมากจะเกิดในหน้าฝน ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายนเช่นเดียวกับซีกโลกใต้ และจะเกิดอีกครั้งหนึ่งซึ่งไม่มากนักในเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ซึ่งต่างกับตอนแรกของการระบาดของ covid 19 ไม่เป็นฤดูกาล
8. ไวรัสโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ แนวโน้มในอนาคตจึงทำให้เมื่อติดเชื้อและสามารถติดเชื้อซ้ำได้อีก แต่อาการของโรคมีแนวโน้มลดลง ความสำคัญจึงอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น 608
ดังนั้น วัคซีนที่ใช้จะต้องใช้ให้ตรงสายพันธุ์ที่คาดว่าจะเกิดมีการระบาด เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ และจะต้องให้ก่อนที่จะมีการระบาด เช่นในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม และกลุ่มที่ควรรับวัคซีนอย่างยิ่งคือกลุ่ม 608 รวมทั้งเด็กเล็ก
ข้อมูลจาก Yong Poovorawan
ภาพจาก แฟ้มภาพ Reuters