โควิดปีนี้ระบาดหนักกว่าปีก่อน คิวต่อไปคือ RSV อยู่ยาวถึงพ.ย.

นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตแห่งสำนักวิทยาศาสตร์ และหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนถึงแนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 ที่คาดว่าจะมีการระบาดสูงกว่าปีที่ผ่านมา แม้ความรุนแรงของโรคลดลงอย่างชัดเจนและได้กลายเป็นโรคประจำฤดูกาลไปแล้ว

นพ.ยง ระบุว่า “เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โควิด-19 จะเริ่มระบาดเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน และจะพุ่งสูงสุดหลังเปิดภาคเรียน ก่อนจะเริ่มลดลงในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกรกฎาคม” โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าจำนวนผู้ป่วยที่รายงานเป็นเพียงผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งไม่สะท้อนตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งหมดในชุมชนจริง

แม้ยอดผู้ติดเชื้อในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนมาก แต่ยอดผู้เสียชีวิตกลับลดลงชัดเจน จากปีที่แล้วที่มีผู้เสียชีวิต 220 ราย ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะไม่ถึง 100 ราย สะท้อนให้เห็นว่าโรคมีความรุนแรงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่สามารถรักษาตัวเองที่บ้าน หรือบางรายอาจไม่ทราบว่าตนติดเชื้อเนื่องจากไม่มีอาการรุนแรง

อย่างไรก็ตาม การที่ประชาชนลดการระวังป้องกันตนเอง ประกอบกับไวรัสแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดการระบาดรวดเร็วและกว้างขวาง โดยเฉพาะในช่วงเปิดภาคเรียน

นพ.ยง ยังเตือนเพิ่มเติมว่า หลังจากเปิดเรียนไป 2-3 สัปดาห์ โรคไข้หวัดใหญ่จะเริ่มระบาดตามมา ร่วมกับไข้หวัดธรรมดา (rhinovirus) และในเดือนกรกฎาคมจะเข้าสู่ช่วงระบาดของเชื้อ RSV ซึ่งจะคงอยู่ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน

"สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกคนต้องร่วมมือกันป้องกัน แม้ว่าเราจะมีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อหรือได้รับวัคซีนมาก่อนแล้วก็ตาม ปัจจุบันไวรัสได้กลายพันธุ์ต่อเนื่องมาถึงตัวอักษร N และจะยังคงเปลี่ยนสายพันธุ์ต่อไปเรื่อย ๆ จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้ อย่างไรก็ตาม ภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ช่วยลดความรุนแรงของโรคลง ทำให้โควิด-19 กลายเป็นโรคทางเดินหายใจธรรมดาอีกโรคหนึ่งในที่สุด" นพ.ยงกล่าวย้ำ.