รีเซต

นายกอสังหาชูต่างชาติเข้า ขอรัฐกระตุ้นบน-ล่างให้ถูก

นายกอสังหาชูต่างชาติเข้า ขอรัฐกระตุ้นบน-ล่างให้ถูก
ทันหุ้น
1 กุมภาพันธ์ 2565 ( 21:14 )
122
นายกอสังหาชูต่างชาติเข้า ขอรัฐกระตุ้นบน-ล่างให้ถูก

#ORI #ทันหุ้น – นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยฉายภาพดีมานด์อสังหาปีนี้จะเด่น รับน่านฟ้าเปิดเชื่อต่างชาติจะเข้ามาจับจองครึ่งปีหลัง หนุนรัฐยืดหยุ่นให้ต่างชาติซื้อที่อยู่ง่ายขึ้น วอนกระตุ้นดีมานด์ในประเทศให้ถูกจุด ระดับบน-กลาง ต้องสร้างบรรยากาศให้ซื้อ ขณะที่ตลาดล่างต้องให้เข้าถึงสินเชื่อ ด้านนักวิเคราะห์ชี้อสังหาเป็นทั้งหุ้นมูลค่าและหุ้นปันผล แนะซื้อ ORI

 

นายมีศักดิ์  ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายในปี 2565 ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัย “แนวราบ” อย่างต่อเนื่องแต่จะยังคง “กระจุกตัว” อยู่เฉพาะในพื้นที่ที่ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่ระบบการจ้างงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร - ปริมณฑล และพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งเริ่มมีนักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเห็นความต้องการต่างชาติที่อยู่อาศัยสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ต่อเนื่องปี 2566 ขณะเดียวกันหากมีผู้บริหารจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาคุมงาน ความต้องการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ EEC ก็จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัวก็ยังจะต้องการบ้านแนวราบ

 

@หนุนต่างชาติซื้อบ้านง่ายขึ้น

 

ทั้งนี้การที่ประเทศไทยพึ่งพิงรายได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในสัดส่วนที่สูง จึงสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่จะดำเนินการอย่างยืดหยุ่นให้สิทธิ์ชาวต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยง่ายขึ้น โดยเมื่อสามารถเปิดน่านฟ้าเสรีได้ นักท่องเที่ยว นักลงทุน รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศ สามารถเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้จะสามารถสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ รวมถึงรัฐบาลได้อย่างมีนัยสำคัญ

 

“ชาวต่างชาติมีความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในไทยสูงมากโดยเฉพาะจีน ก่อนหน้านี้ก็มีความพยายามเป็นเจ้าของด้วยการใช้นอมินีดังนั้น เพื่อให้ความต้องการของกลุ่มนี้เป็นไปอย่างถูกต้องและเปิดเผยตัวตน จะต้องเปิดโอกาสให้คนต่างชาติมาซื้อได้ เช่น แก้กฎหมายให้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ภายใต้ข้อกำหนดบางอย่างที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อผู้บริหาร หรือบุคลากรระดับหัวหน้างานกลับเข้ามาคุมงานในประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น”

 

@วอนกระตุ้นให้ถูกทาง

 

สำหรับผู้ซื้อในประเทศนั้น ความต้องการที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่างยังมีสูง แต่ความสามารถในการซื้อ - เข้าถึงสินเชื่อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ  แม้ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนคลายมาตรการ LTV-Loan To Value ชั่วคราว โดยอนุญาตให้ยื่นขอสินเชื่อได้เต็ม 100%  แต่ในทางปฏิบัติมีเพียงธนาคารภาครัฐ และธนาคารพาณิชย์เพียงบางแห่งเท่านั้น ที่พิจารณาตามมาตรการดังกล่าว ส่วนระดับกลาง-บน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อแข็งแกร่งและยังคงมีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงโควิดกว่า 2 ปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลไม่มีมาตรการใดเข้ามากระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนกลุ่มนี้อย่างจริงจัง ฉะนั้นภาครัฐควรมีมาตรการออกมาช่วยเหลือ – แก้ปัญหาให้ตรงจุด เพื่อให้ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยระดับกลาง-ล่าง สามารถเข้าถึงสินเชื่อ และมีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง ขณะเดียวกันประชาชนกลุ่มที่มีกำลังซื้อก็จะได้ตัดสินใจซื้อ - ปรับปรุง - ต่อเติมที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

 

@เหตุหุ้นอสังหาพุ่ง

 

นายสรพงษ์  จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เร่งตัวขึ้นใกล้แตะระดับ “ราคาเป้าหมาย” หลายตัว โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1.ความต้องการบ้านแนวราบที่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง 2.ความคาดหวังผลการดำเนินงานปี 2565 จะดีต่อเนื่องจากปี 2564 ที่หลายบริษัทสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ และ 3.ธปท.มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศ ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลก ค่าเงินที่ผันผวน หุ้นอสังหาจึงถูกมองว่าเป็น Value  Stock อีกทั้งยังเป็นหุ้นปันผลจึงเร่งตัวขึ้นมาใกล้ราคาเป้าหมาย

 

ประเมินว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่รวมมูลค่าหลายแสนล้านบาท เน้นพัฒนาโครงการแนวราบ ซึ่งยังมีความต้องการสูงต่อเนื่องในระยะ 3 ปี (2565-2567) ควบคู่การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเฉพาะทำเลศักยภาพ เพื่อเตรียมไว้เพิ่มยอดชาย – ยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการในอนาคต

 

เลือก ORI เป็นหุ้นเด่นเนื่องจากเป็นผู้พัฒนาโครงการทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียมหลายทำเลศักยภาพ อีกทั้งยังกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจออกไปในธุรกิจที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์เพื่อขายให้แข็งแกร่ง ประกอบด้วย 1. ธุรกิจการแพทย์-เฮลธ์แคร์ 2. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) 3. ธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ปรับปรุง-ตกแต่งบ้าน 4. ธุรกิจโรงแรม อาคารสำนักงาน 5. ธุรกิจคลังสินค้า-โลจิสติกส์ 6.ธุรกิจรับบริหารงาน และบริหารงานก่อสร้าง ในเครือพรีโม ซึ่งมีแผนจะนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในอนาคต และ 7.ธุรกิจประกัน

 

โดยโครงการลงทุนธุรกิจดังกล่าวจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างน่าพึงพอใจในอนาคต แม้ปัจจุบันรายได้หลักของ ORI มาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แต่ฝ่ายวิเคราะห์ได้พิจารณาเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจคลังสินค้า-โลจิสติกส์ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ 0.60 บาทต่อหุ้น, และธุรกิจโรงแรมที่สร้างเสร็จ และเริ่มรับรู้รายได้แล้ว 2 โรงแรม คือ ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง และสเตย์บริตจ์ สวีท แบงคอก ทองหล่อ อีก 0.60 บาทต่อหุ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง