ORIขายแล้ว1.9หมื่นล้าน ลุยโอน6โครงการโค้งท้าย

#ORI #ทันหุ้น – ORI มองอสังหาเริ่มฟื้น หลังซบเซาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 เหตุตลาดกลับเข้าสู่จุดสมดุลระหว่างอุปทาน–อุปสงค์ หนุนธนาคารพาณิชย์เริ่มปล่อยสินเชื่อมากขึ้น “พีระพงศ์ จรูญเอก” ชี้ปี 2569 จะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน ล่าสุดโกยยอดขาย 9 เดือนทะลุ 1.9 หมื่นล้านบาท ดันแบ็กล็อกกว่า 4 หมื่นล้านบาท เล็งเปิด 5 โครงการใหม่โค้งท้าย พร้อมทยอยโอน 6 โครงการสร้างเสร็จอัพรายได้เพิ่ม

นายพีระพงศ์  จรูญเอก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่าเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หลังจากชะลอตัวตั้งแต่ราวปี 2564 ถึงช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (1H/68) ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการต่างชะลอการเปิดโครงการใหม่ (Supply) ให้สอดคล้องกับความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัย (Demand) ในแต่ละช่วงเวลา ส่งผลให้จำนวนโครงการสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ กับความต้องการที่อยู่อาศัยเข้าสู่จุดสมดุล

ขณะเดียวกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานกำกับดูแลคือกระทรวงการคลัง, ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงธนาคารพาณิชย์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ร่วมกันแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยให้ธนาคารพาณิชย์เริ่มพิจารณาปล่อยสินเชื่อมีหลักประกัน อาทิ สินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นคาดว่าอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเริ่มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งได้ช่วงกลางปี 2569 เป็นต้นไป

“ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลช่วยค่อนข้างมากธนาคารพาณิชย์ของรัฐบาลปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเยอะมากแม้ธนาคารพาณิชย์ทั่วไปจะชะลอการปล่อยฯ แต่ด้วยสัญญาณฟื้นตัวในปัจจุบันธนาคารใหญ่บางแห่ง เช่น KBANK ได้กลับมาปล่อยสินเชื่อเยอะมาก และกลายเป็นแชมป์ในการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีแรกด้วย”

*9 เดือนขายแล้ว 1.9 หมื่นล.

สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 ที่ผ่านมา มียอดขายรวมทั้งสิ้น 19,086 ล้านบาท ทำให้ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 รวมอยู่ที่ 40,983 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 4 ปี ทั้งนี้บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 4/2568 อีก 5 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 3 โครงการ และคอนโดอีก 2 โครงการ ขณะเดียวกันบริษัทมีโครงการคอนโดที่เสร็จใหม่และเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ ในช่วงไตรมาส 4/2568 จำนวน 6 โครงการ อีกด้วย

พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนการขายทรัพย์สิน อาทิ โรงแรม และคลังสินค้าที่สร้างผลกำไรในระดับที่เหมาะสม ควบคู่กลยุทธ์กระจายความเสี่ยงทางธุรกิจครอบคลุม ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย  ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ค้าปลีก, ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลธ์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ฯลฯ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

*แนะซื้อเป้า 3.30 บาท

                บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ ORI มีพอร์ตสินทรัพย์มูลค่ารวม 1.17 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยโรงแรม 10 แห่ง รวม 2,500 ห้อง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 66% และพอร์ตคลังสินค้าอีกกว่า 9.8 พันล้านบาท จำนวน 12 แห่ง ซึ่งมีอัตราการเช่าเฉลี่ย 95% ภายใต้บริษัทร่วมทุนกับ SJWD โดยช่วงครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทมีแผนขายโรงแรม 2 แห่ง และคลังสินค้า 1 แห่ง รวมถึงในปี 2569 มีแผนขายโรงแรม 1 แห่ง และขายคลังสินค้าอีก 3 แห่ง ในบริษัทร่วมทุนกับ SJWD เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เข้าสู่ขาลงจะช่วยหนุนราคาทรัพย์สินให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง โอกาสในการทำกำไรจากการขายสินทรัพย์ที่มากขึ้น

ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งหลังปี 2568 บริษัทมีโครงการคอนโดใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 3.4 พันล้านบาท (ขายแล้ว 86%) และอีก 4 โครงการร่วมทุน มูลค่า 6 พันล้านบาท (ขายแล้ว 74%) ที่พร้อมโอนในช่วงนี้ โดยคาดว่าจะมีรายได้รอโอนในครึ่งหลังปี 2568 ประมาณ 7.3 พันล้านบาท พร้อมกันนี้ยังมีแผนเจาะตลาดต่างชาติ เช่น จีน รัสเซีย ไต้หวัน เป็นต้น เบื้องต้นประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ทรงตัวที่ราว 1 พันล้านบาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 3.30 บาท