รีเซต

ORIปรับโมเดลปั๊มกำไร จับตาผลงานครึ่งหลังพีค

ORIปรับโมเดลปั๊มกำไร จับตาผลงานครึ่งหลังพีค
ทันหุ้น
7 สิงหาคม 2568 ( 21:20 )
16

#ORI #ทันหุ้น – ORI มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังสดใสทุกไตรมาส ปรับกลยุทธ์เก็บเกี่ยวกำไรพิเศษ เล็งแผนขายสินทรัพย์เข้ากองรีท เสริมสภาพคล่อง-หนุนแผนลงทุนโครงการใหม่ เตรียมประกาศแผนขยายอาณาจักรด้วยโมเดลใหม่สัปดาห์หน้า ก้าวสู่การเป็น Holding Company เต็มตัว ฟากโบรกชี้กำไรโค้งสอง ไต่ขึ้นแม้ยอดขายคอนโดสะเทือนจากแผ่นดินไหว แต่ 2 ช่วงท้ายปีลุ้นกำไรพิเศษกว่า 450 ล้านบาท เข้ามาดันงบพีค ให้ราคาเป้าสูงสุด 2.30 บาท


นายพีระพงศ์  จรูญเอก  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และให้บริการที่เกี่ยวเนื่อง เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 คาดเผยแพร่ข้อมูลเป็นทางการราว 15 สิงหาคม 2568 นี้ ในเบื้องต้นถือว่าน่าพอใจแม้ช่วงต้นไตรมาส 2/2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพมหานคร จะเกิดภาวะหวาดวิตกผลพวงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทว่าในแง่ผลการดำเนินงานของบริษัทถือว่าไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบ


สำหรับภาพธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2568 มั่นใจผลผลการดำเนินงานในทุกๆ ไตรมาสจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากแผ่นดินไหว และหากเปรียบเทียบระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลังของปีก็ยังมั่นใจเช่นกันว่าผลประกอบการมีโอกาสดีขึ้นอย่างชัดเจน


อนึ่ง ORI เปิดเผยว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ทำยอดขายได้กว่า 14,049 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 81% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 19% ทั้งนี้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในตลาดยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าโซนแหล่งงาน และนิคมอุตสาหกรรม


*จ่อขายสินทรัพย์เข้ากองรีท

ในแง่กลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ในกลุ่ม จากนี้ไปจะถือเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลจากการทยอยลงทุนต่างๆ พร้อมพัฒนามาประมาณ 5 ปี กระทั่งได้สะสมจนมีขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทมีทั้งโรงแรมที่พร้อมดำเนินการแล้ว นับ 10 แห่ง และแวร์เฮาส์นับ 10 แห่ง อีกทั้งจะมีโรงแรมใหม่สร้างเสร็จเพิ่มอีก 4 แห่ง ในช่วงปลายปีนี้


นอกจากนี้จะมีการขายโรงแรมเข้ากองรีท (REIT) จำนวน 2 แห่ง และขายแวร์เฮาส์อีก 1 แห่ง กำไรจากการขายเหล่านี้คาดว่าจะรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้หลังจากทยอยขายสินทรัพย์เข้ากองรีทแล้วเงินที่คาดจะได้มาจะผันมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อยอดการเติบโตในกลุ่มเครือ ORI


และในแง่มุมการบริหารการเงินการขายสินทรัพย์ขนาดใหญ่เหล่านี้จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรเป็นก้อนเข้ามา แตกต่างจากเดิมที่บริษัทไม่เคยมีกำไรลักษณะนี้จึงเท่ากับเป็นการสร้างความคล่องตัวในแง่สภาพคล่องและเป็นการพร้อมรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


ขณะที่ในสัปดาห์หน้า ORI เตรียมประกาศแผนขยายอาณาจักรธุรกิจครอบคลุมทั้ง บ้าน คอนโดมิเนียม โรงแรม คลังสินค้า เพื่อมุ่งสู่การเติบโตบทใหม่ในรูปแบบการเป็น Holding Company


*กำไรพิเศษดันผลงานนิวไฮ

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุถึง ORI ว่า คาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/2568 จะอยู่ที่ 294 ล้านบาท อ่อนตัว 34.9% YoY จากการลดลงของกำไรจากการร่วมทุน (JV) และรายได้ค่าบริหารโครงการ แต่หากเทียบ QoQ ถือว่าสูงขึ้น 163.4% จากทั้งยอดโอนและอัตรากำไรที่ดีขึ้น และยังมีกำไรพิเศษจากการร่วมทุนคอนโดมีเนียมที่ JV จำนวน 1 โครงการเข้ามาเสริม ด้านผลกระทบจากแผ่นดินไหวกลายเป็นว่าบริษัทได้รับเงินประกันแผ่นดินไหวเข้ามาเสริมรายได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มียอดขายแนวสูงที่อ่อนตัวลงจากความกังวลเรื่องแผ่นดินไหวเช่นกัน


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุถึง แนวโน้ม Q3/2568 ว่า กำไรปกติมีโอกาสขยายตัวต่อและอาจมีรับรู้รายการพิเศษจากการขายสินทรัพย์จากการขายโรงแรม 2 แห่งเข้ามา ราว 450 ล้านบาท (หลังภาษี Tax) ทำให้แนวโน้มกำไรสุทธิสูงสุดรายไตรมาสปีนี้ ในขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิทั้่งปี 2568 ที่ 1,130 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน และอาจมีรายการรับรู้เพิ่มเติมอีกหากขายแวร์เฮาส์ เข้ากอง Reits ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้


ทั้งนี้จากการรวบรวมราคาเป้าหมายจากบทวิเคราะห์การลงทุนล่าสุดให้ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานหุ้น ORI ดังนี้ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ 1.85 บาท, บล.พาย ให้ 1.85 บาท, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ 1.90 บาท, บล. เอเซีย พลัส ให้ 2.27 บาท, บล.กรุงศรี ให้ 2.30 บาท

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง