ORIปรับโมเดลปั๊มกำไร จับตาผลงานครึ่งหลังพีค

#ORI #ทันหุ้น – ORI มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังสดใสทุกไตรมาส ปรับกลยุทธ์เก็บเกี่ยวกำไรพิเศษ เล็งแผนขายสินทรัพย์เข้ากองรีท เสริมสภาพคล่อง-หนุนแผนลงทุนโครงการใหม่ เตรียมประกาศแผนขยายอาณาจักรด้วยโมเดลใหม่สัปดาห์หน้า ก้าวสู่การเป็น Holding Company เต็มตัว ฟากโบรกชี้กำไรโค้งสอง ไต่ขึ้นแม้ยอดขายคอนโดสะเทือนจากแผ่นดินไหว แต่ 2 ช่วงท้ายปีลุ้นกำไรพิเศษกว่า 450 ล้านบาท เข้ามาดันงบพีค ให้ราคาเป้าสูงสุด 2.30 บาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และให้บริการที่เกี่ยวเนื่อง เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 คาดเผยแพร่ข้อมูลเป็นทางการราว 15 สิงหาคม 2568 นี้ ในเบื้องต้นถือว่าน่าพอใจแม้ช่วงต้นไตรมาส 2/2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพมหานคร จะเกิดภาวะหวาดวิตกผลพวงแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทว่าในแง่ผลการดำเนินงานของบริษัทถือว่าไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบ
สำหรับภาพธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2568 มั่นใจผลผลการดำเนินงานในทุกๆ ไตรมาสจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากแผ่นดินไหว และหากเปรียบเทียบระหว่างครึ่งแรกกับครึ่งหลังของปีก็ยังมั่นใจเช่นกันว่าผลประกอบการมีโอกาสดีขึ้นอย่างชัดเจน
อนึ่ง ORI เปิดเผยว่า ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 ทำยอดขายได้กว่า 14,049 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 81% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 19% ทั้งนี้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในตลาดยังมีอยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้าโซนแหล่งงาน และนิคมอุตสาหกรรม
*จ่อขายสินทรัพย์เข้ากองรีท
ในแง่กลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ในกลุ่ม จากนี้ไปจะถือเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลจากการทยอยลงทุนต่างๆ พร้อมพัฒนามาประมาณ 5 ปี กระทั่งได้สะสมจนมีขนาดใหญ่ ซึ่งบริษัทมีทั้งโรงแรมที่พร้อมดำเนินการแล้ว นับ 10 แห่ง และแวร์เฮาส์นับ 10 แห่ง อีกทั้งจะมีโรงแรมใหม่สร้างเสร็จเพิ่มอีก 4 แห่ง ในช่วงปลายปีนี้
นอกจากนี้จะมีการขายโรงแรมเข้ากองรีท (REIT) จำนวน 2 แห่ง และขายแวร์เฮาส์อีก 1 แห่ง กำไรจากการขายเหล่านี้คาดว่าจะรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้หลังจากทยอยขายสินทรัพย์เข้ากองรีทแล้วเงินที่คาดจะได้มาจะผันมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อยอดการเติบโตในกลุ่มเครือ ORI
และในแง่มุมการบริหารการเงินการขายสินทรัพย์ขนาดใหญ่เหล่านี้จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรเป็นก้อนเข้ามา แตกต่างจากเดิมที่บริษัทไม่เคยมีกำไรลักษณะนี้จึงเท่ากับเป็นการสร้างความคล่องตัวในแง่สภาพคล่องและเป็นการพร้อมรับโอกาสใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะที่ในสัปดาห์หน้า ORI เตรียมประกาศแผนขยายอาณาจักรธุรกิจครอบคลุมทั้ง บ้าน คอนโดมิเนียม โรงแรม คลังสินค้า เพื่อมุ่งสู่การเติบโตบทใหม่ในรูปแบบการเป็น Holding Company
*กำไรพิเศษดันผลงานนิวไฮ
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุถึง ORI ว่า คาดการณ์กำไรสุทธิ Q2/2568 จะอยู่ที่ 294 ล้านบาท อ่อนตัว 34.9% YoY จากการลดลงของกำไรจากการร่วมทุน (JV) และรายได้ค่าบริหารโครงการ แต่หากเทียบ QoQ ถือว่าสูงขึ้น 163.4% จากทั้งยอดโอนและอัตรากำไรที่ดีขึ้น และยังมีกำไรพิเศษจากการร่วมทุนคอนโดมีเนียมที่ JV จำนวน 1 โครงการเข้ามาเสริม ด้านผลกระทบจากแผ่นดินไหวกลายเป็นว่าบริษัทได้รับเงินประกันแผ่นดินไหวเข้ามาเสริมรายได้ด้วย อย่างไรก็ตาม มียอดขายแนวสูงที่อ่อนตัวลงจากความกังวลเรื่องแผ่นดินไหวเช่นกัน
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุถึง แนวโน้ม Q3/2568 ว่า กำไรปกติมีโอกาสขยายตัวต่อและอาจมีรับรู้รายการพิเศษจากการขายสินทรัพย์จากการขายโรงแรม 2 แห่งเข้ามา ราว 450 ล้านบาท (หลังภาษี Tax) ทำให้แนวโน้มกำไรสุทธิสูงสุดรายไตรมาสปีนี้ ในขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิทั้่งปี 2568 ที่ 1,130 ล้านบาท เติบโต 7% จากปีก่อน และอาจมีรายการรับรู้เพิ่มเติมอีกหากขายแวร์เฮาส์ เข้ากอง Reits ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้
ทั้งนี้จากการรวบรวมราคาเป้าหมายจากบทวิเคราะห์การลงทุนล่าสุดให้ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานหุ้น ORI ดังนี้ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้ 1.85 บาท, บล.พาย ให้ 1.85 บาท, บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ 1.90 บาท, บล. เอเซีย พลัส ให้ 2.27 บาท, บล.กรุงศรี ให้ 2.30 บาท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
