“ยิ้มสยามต้องไม่หาย” รัฐ-เอกชนเร่งปั๊มหัวใจท่องเที่ยวไทย ดึงต่างชาติคืน

เวทีสัมมนา TNN ร่วมรัฐ-เอกชน ฟื้นท่องเที่ยวไทย ชูแนวคิด “จุดหมายปลายทางสุดท้าย” ดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับ พร้อมดัน Entertainment Complex สู่เมืองรอง
เศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างสูง ยังไม่ฟื้นเต็มศักยภาพหลังโควิด-19 โดยเฉพาะเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจีนหายวูบ ขณะที่เวียดนามแซงหน้าขึ้นแท่นแชมป์ใหม่ สะท้อนถึงแรงดึงดูดของไทยที่กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่
เวทีสัมมนา “Mission Thailand” โดย TNN กลายเป็นพื้นที่สำคัญในการระดมความเห็นระหว่างภาครัฐและเอกชน ภายใต้หัวข้อ “ปั๊มหัวใจท่องเที่ยวไทย ดูดรายได้ต่างชาติ” โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย ร่วมกันถอดบทเรียนและเสนอแนวทางฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ให้กลับมาเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจอีกครั้ง
ประเด็นสำคัญ
- นักท่องเที่ยวจีนลดฮวบ 48% เวียดนามขึ้นแท่นประเทศยอดนิยม
- ความปลอดภัย-คุณภาพบริการ เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจเดินทาง
- เสนอไทยเป็น "จุดหมายปลายทางสุดท้าย" ก่อนกลับบ้าน
- รัฐเตรียมดัน Entertainment Complex กระจายสู่เมืองรอง
- โครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ไม่หาย แต่จะปรับให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
การฟื้นการท่องเที่ยวไทยต้องอาศัยมากกว่านโยบาย ต้องฟังเสียงจากผู้ปฏิบัติหน้างานอย่างภาคเอกชนควบคู่กัน ทั้งในแง่ของแนวโน้มตลาด นักท่องเที่ยวคุณภาพ และการกระจายรายได้อย่างแท้จริง
นักท่องเที่ยวจีนหายวูบ 48% เวียดนามแซงไทย
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ เปิดเผยว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในเดือนมีนาคมลดลงถึง 48% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ทั้งที่จีนเคยเป็นตลาดหลักคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวจีนกลับเดินทางไปยังญี่ปุ่นและเวียดนามในจำนวนมาก โดยเวียดนามแซงหน้าประเทศไทยไปแล้วในฐานะจุดหมายปลายทางยอดนิยมใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงแรงดึงดูดที่ลดลงของไทยอย่างน่ากังวล
สื่อสารเชิงรุก แก้ปัญหาความปลอดภัยและภาพลักษณ์
ทั้งรัฐและเอกชนต่างเห็นตรงกันว่า ปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวจีนคือ “ความปลอดภัยในภาพรวม” ไม่ใช่แค่คดีอาชญากรรม แต่รวมถึงอุบัติเหตุทางถนน คุณภาพอาหาร และเหตุการณ์รายวันซึ่งถูกขยายในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว นายสรวงศ์ระบุว่า ตำรวจท่องเที่ยวมีเพียง 1,800 นายทั่วประเทศ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากตำรวจภูธรและนครบาล ขณะเดียวกันการสื่อสารเชิงรุกโดยใช้ Influencer และ KOL จีนจึงกลายเป็นแนวทางหลักในการกู้ภาพลักษณ์
Final Destination เปลี่ยนไทยจากจุดผ่านเป็นจุดจบการเดินทาง
นายเทียนประสิทธิ์ เสนอว่า ไทยควรวางตำแหน่งให้เป็น "จุดหมายปลายทางสุดท้าย" ของการเดินทางในภูมิภาค เพื่อให้เกิดการจับจ่ายก่อนนักท่องเที่ยวเดินทางกลับประเทศ พร้อมเสนอให้รัฐเร่งปรับระบบ tax refund ให้เป็นระบบดิจิทัล ลดขั้นตอน และเพิ่มความสะดวก เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายก่อนออกจากประเทศ
ปรับโฟกัส นักท่องเที่ยวคุณภาพ เมืองรองเฉพาะเจาะจง
รัฐมนตรีสรวงศ์ ระบุว่ารัฐบาลเตรียมปรับเกณฑ์การประเมินผลของการท่องเที่ยว ไม่เน้นแค่จำนวน แต่เน้น “ค่าใช้จ่ายต่อหัว” และ “ระยะเวลาพำนัก” พร้อมประกาศว่าโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ยังอยู่ แต่จะปรับให้เน้นเจาะจงจังหวัดเมืองรองที่มีศักยภาพจริง ไม่ยิงแบบกระจายทั่ว 55 จังหวัด เพื่อไม่ให้ทรัพยากรถูกใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ พร้อมวางแนวทางให้ข้าราชการใช้วันลาพักผ่อนในวันธรรมดา เพื่อกระจายคนท่องเที่ยวออกนอกช่วงพีคซีซั่น
Entertainment Complex จากแนวคิดสู่จุดขายใหม่
นายเทียนประสิทธิ์ เสนอให้รัฐผลักดัน Entertainment Complex ในจังหวัดใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ หรือพัทยา เพื่อสร้าง Destination ใหม่ กระจายรายได้ และสร้างแรงดึงดูดเฉพาะทาง ขณะที่รัฐยืนยันว่า รัฐไม่ได้กำหนดพื้นที่ นักลงทุนจะเป็นผู้เลือกตามศักยภาพในตลาด โดยรัฐจะผลักดันกฎหมายให้เกิดขึ้นเพื่อจูงใจนักลงทุนอย่างแท้จริง
ราคาห้องพักไทยแพง? หรือไม่เข้าใจระบบตลาด
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกวิจารณ์คือราคาโรงแรมไทยที่ถูกมองว่าแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนาม นายเทียนประสิทธิ์ชี้ว่า โรงแรมไทยใช้ระบบ Dynamic Pricing ซึ่งอิงอุปสงค์-อุปทานตามหลักเศรษฐศาสตร์ และย้ำว่าต้นทุนของไทยสูงกว่าหลายประเทศ ทั้งค่าแรงขั้นต่ำและค่าสาธารณูปโภค “ประเทศไทยมีทางเลือกหลากหลาย ทั้งโรงแรม 7 ดาว ไปจนถึงบังกะโลริมชายหาด นักท่องเที่ยวเลือกได้ตามงบและความคาดหวัง”
ยิ้มสยามต้องไม่หาย ร่วมมือเพื่อภาพลักษณ์ประเทศ
ในช่วงท้ายของการเสวนา นายสรวงศ์กล่าวเน้นว่า จุดแข็งที่แท้จริงของไทยยังคงอยู่ที่ “คนไทย” และ “Service Mind” ที่ทั่วโลกยอมรับ “ยิ้มสยาม” ควรเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ไม่หายไป พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการและประชาชนว่า รัฐบาลรับฟังคำวิจารณ์ได้ แต่ขอให้คำนึงถึงภาพลักษณ์ของประเทศในทุกการแสดงความเห็น โดยเฉพาะในโลกออนไลน์
ในยุคที่การแข่งขันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรุนแรงขึ้น ประเทศไทยต้องหาความต่างและความลึกซึ้งที่ไม่ใช่แค่ราคาถูก หากแต่เป็น “คุณค่า” และ “ประสบการณ์” ที่นักท่องเที่ยวจะไม่มีวันลืม เมื่อรัฐและเอกชนจับมือกันแบบมีเป้าหมายร่วม "Mission Thailand" ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของหัวใจเศรษฐกิจไทย