สื่อเกาหลีรายงาน มี 11 เคสที่ชาวเกาหลีถูกลักพาตัวในไทย กระทบความปลอดภัย และการท่องเที่ยว ?

แม้ว่ากระแสการปราบสแกมเมอร์ในกัมพูชาจะเข้มข้นต่อเนื่อง มีการประกาศห้ามเดินทางเข้ากัมพูชาบางพื้นที่จากเกาหลี และถูกมองว่าอันตราย แต่ไทยที่มีชายแดน พรมแดนติดกันนั้น ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย จนอาจถึงธุรกิจท่องเที่ยวเช่นกัน
โดยสื่อเกาหลีใต้ ได้รายงานถึง 11 กรณี ที่มีชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวในประเทศไทย โดยจากข้อมูลของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ชี้ว่าจํานวนรายงานการลักพาตัวในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นจาก 0 เคสในปี 2021 เป็นหนึ่งเคสในปี 2022 และห้าเคสในปี 2023 และ 2024 รวมทั้งหมด 11 เคส
ทำให้มีการมองว่าประเทศไทยมีบันทึกของอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อหรือผู้กระทําความผิดชาวเกาหลีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับคดีเมื่อปีที่แล้ว ที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีวัย 34 ปี ถูกลักพาตัวและสังหารในประเทศไทยโดยชายเกาหลีสามคน ซึ่งแต่ละคนถูกจับกุมในแต่ละประเทศอย่างเกาหลีใต้ เวียดนาม และกัมพูชา
ทั้งในเดือนกรกฎาคมนี้เอง ยังมีการรายงานของการจับกุม แก๊งอาชญากรเกาหลี 20 คนและชาวจีน 1 คน ในจังหวัดชลบุรีของประเทศไทย ซึ่งมีชายชาวเกาหลีใต้ที่รายงานว่าถูกลักพาตัวและถูกบังคับให้ทํางานให้กับเครือข่ายหลอกลวงคอลเซ็นเตอร์ได้รับการช่วยเหลือจากปฏิบัติการนี้
เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้คิมกอน สส.จากพรรคพลังประชาชน ฝ่านค้านมองว่า รัฐบาลเกาหลีต้องร่วมมือไม่เพียงกับกัมพูชา “แต่ประเทศไทยและประเทศสําคัญอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อปกป้องประชาชนของเรา" และเสริมว่ารัฐต้องเพิ่มการตรวจสอบการแจ้งเตือนการจ้างงานที่ผิดกฎหมายที่ล่อเหยื่อไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หลังจากข่าวล่าสุดของนักศึกษาวิทยาลัยชาวเกาหลีใต้ที่ถูกทรมานและถูกฆ่าตายในกัมพูชา ชาวเกาหลีจํานวนมากกําลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลายแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ชาวเกาหลีใต้ประมาณ 1.86 ล้านคนมาเยือนประเทศไทยในปี 2024
กระแสสแกมเมอร์ ที่กระทบท่องเที่ยวไทย
ไม่เพียงแค่เกาหลีใต้ ที่เปิดเผยข้อมูลที่อาจกระทบการท่องเที่ยวไทย เพราะล่าสุดอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า กระแสข่าวเรื่อง “ศูนย์หลอกลวงออนไลน์ (Scammer Centers)” ในกัมพูชาและประเทศเพื่อนบ้าน ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น
จากตัวเลขของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่าจํานวนผู้เดินทางมาถึงจากประเทศเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่ลดลงในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-กันยายน) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยจีน ลดลง 34.97%, เกาหลีใต้ ลดลง 17.70%, ไต้หวัน ลดลง 9.14% ในขณะที่ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นที่ 5.39%
โดยสถานการณ์นี้ไม่เพียงกระทบภาพลักษณ์ของไทยในฐานะ “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวอาเซียน” แต่ยังอาจกระทบต่อรายได้ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระยะยาว หากไทยไม่เร่งแสดงบทบาทเชิงรุก
ซึ่งทางแอตต้า ก็ชี้ว่ารัฐบาลควรประกาศ “มาตรการความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่อเครื่องไปประเทศกลุ่ม CLMV” หรือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ไปถึงจุดยืนของไทยในอาเซียนต้องชัด ไม่เพียงเป็นทางผ่าน แต่ต้องเป็นผู้คุ้มกันด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
