ถอดรหัส 10 นโยบายเร่งด่วน "แพทองธาร" ชี้ชัด ประชาชนได้อะไร?

นโยบายเร่งด่วน 10 ข้อที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญหลายด้าน ตั้งแต่การแก้ปัญหาหนี้สินไปจนถึงการส่งเสริมสวัสดิการสังคม

นโยบายแรกเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ มุ่งช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งในและนอกระบบ พร้อมส่งเสริมความรู้ทางการเงินและการออม หากดำเนินการสำเร็จ ประชาชนจะได้รับการบรรเทาภาระหนี้สิน มีความรู้ในการบริหารการเงินที่ดีขึ้น และมีทางเลือกในการออมที่หลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอยู่ที่การดำเนินการให้ครอบคลุมลูกหนี้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกหนี้นอกระบบซึ่งมักเข้าถึงได้ยาก

นโยบายที่สองเน้นการส่งเสริมและปกป้องผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ พร้อมแก้ปัญหาหนี้และจัดทำ Matching Fund ประโยชน์ที่คาดว่าประชาชนจะได้รับคือ ผู้ประกอบการ SMEs จะมีโอกาสแข่งขันในตลาดได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น มีโอกาสอยู่รอดและรักษาการจ้างงาน รวมถึงมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น แต่ความท้าทายอยู่ที่การกำหนดมาตรการที่เป็นธรรมและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในแง่ของราคาและทางเลือก

นโยบายที่สามเกี่ยวกับการลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะพร้อมนโยบาย "ค่าโดยสารราคาเดียว" ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนโดยตรง ทั้งจากราคาพลังงานและสาธารณูปโภคที่ถูกลง และค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ลดลง อย่างไรก็ดี การรักษาสมดุลระหว่างราคาที่เป็นธรรมกับประชาชนและความยั่งยืนทางการเงินของผู้ให้บริการเป็นความท้าทายสำคัญ

นโยบายที่สี่มุ่งนำเศรษฐกิจนอกระบบและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี เพื่อนำรายได้มาจัดสรรสวัสดิการ ซึ่งจะช่วยให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค และทำให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมมีความเป็นธรรมมากขึ้น แต่การสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการนอกระบบเข้าสู่ระบบโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ

นโยบายที่ห้าเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและประกอบอาชีพ อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาวเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง

นโยบายที่หกเกี่ยวกับการยกระดับภาคเกษตร โดยใช้แนวคิด "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" และฟื้นนโยบาย "ครัวไทยสู่ครัวโลก" ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก แต่การพัฒนาทักษะและการเข้าถึงเทคโนโลยีของเกษตรกรรายย่อยเป็นความท้าทายสำคัญ

นโยบายที่เจ็ดมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าและการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับผู้ประกอบการและชุมชนท้องถิ่น และสร้างงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ อย่างไรก็ตาม การรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง

นโยบายที่แปดและเก้าเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม โดยเฉพาะอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรม เพิ่มความปลอดภัยในชุมชน และลดความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ แต่การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและการพัฒนาเทคโนโลยีและบุคลากรให้ทันกับรูปแบบอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นความท้าทายสำคัญ

นโยบายสุดท้ายมุ่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพกลุ่มเปราะบาง ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มเปราะบางเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐได้สะดวกขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ แต่การออกแบบนโยบายที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

โดยสรุป นโยบายเร่งด่วน 10 ข้อนี้มีเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาพื้นฐานที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัย หากสามารถดำเนินการได้ตามแผน ประชาชนจะได้รับประโยชน์ในหลายด้าน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของนโยบายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ และจำเป็นต้องมีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน