รีเซต

จีนจ่อขึ้นเบอร์ 1 ของโลกด้านกำลังการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว ทุกประเทศรวมกันยังไม่สู้ !

จีนจ่อขึ้นเบอร์ 1 ของโลกด้านกำลังการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว ทุกประเทศรวมกันยังไม่สู้ !
TNN ช่อง16
10 มิถุนายน 2567 ( 12:10 )
26
จีนจ่อขึ้นเบอร์ 1 ของโลกด้านกำลังการผลิตไฮโดรเจนสีเขียว ทุกประเทศรวมกันยังไม่สู้ !

ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่ถูกพูดถึงในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมไปถึงยานพาหนะและการผลิตไฟฟ้า และจากรายงานของรีสตาด เอเนอร์จี (Rystad Energy) บริษัทวิจัยอิสระด้านพลังงานในนอร์เวย์ ระบุว่า จีนจะมีกำลังการผลิตไฮโดรเจนจากแหล่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (ไฮโรเจนสีเขียว) อยู่ที่ 220,000 ตันต่อปี ภายในสิ้นปี 2024 นี้ ซึ่งจะมากกว่าทุกประเทศในโลกรวมกันกว่า 6,000 ตัน และอาจไต่ระดับไปถึง 1 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2025 นี้


ความสำเร็จด้านไฮโดรเจนสีเขียวของจีน

ในรายงานดังกล่าวระบุว่า เดิมทีรัฐบาลจีนมีแผนการผลิตไฮโดรเจนที่มาจากแหล่งผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้ 200,000 ตันต่อปี (Tonnes per annum: tpa) ภายในปี 2025 แต่จากการประเมินของ Rystad Energy เชื่อว่าเป้าหมายดังกล่าวจะบรรลุได้ภายในสิ้นปี 2024 นี้ ซึ่งเร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 1 ปี และมากกว่ากำลังการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวของทุกประเทศทั่วโลกที่เหลือรวมกันกว่า 6,000 ตันต่อปี


Rystad Energy วิเคราะห์ว่า เป็นผลมาจากการสร้างเครื่องแยกน้ำด้วยไฟฟ้า (Electrolyzer) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเทคโนโลยีการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากไฮโดรเจนในปัจจุบัน มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในจีน โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา กำลังการผลิตของ Electrolyzer รวมในประเทศอยู่ที่ 1 กิกะวัตต์ (GW) และมีโครงการใหม่ที่มีกำลังการผลิตถึง 2.5 GW ซึ่งทำให้การผลิตไฮโดรเจนสีเขียวพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย


ในขณะที่แผนการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวในท้องถิ่นเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของความสำเร็จตามมุมมองของ Rystad Energy โดยเฉพาะกำลังการผลิตจากเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน รวมถึงเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย มณฑลชิงไห่ มณฑลกานซู มณฑลเหอเป่ย มณฑลจี๋หลิน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนเป็นส่วนใหญ่ 


ความท้าทายในการเป็นผู้นำด้านไฮโดรเจนสีเขียวของจีน

โครงการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวจากมณฑลและเขตการปกครองตัวเองรวมกันแล้วคาดว่าจะมีกำลังการผลิตรวมกว่า 1.2 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2025 นี้ อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวยังติดปัญหาคอขวดที่กำลังการผลิตของ Electrolyzer ยังไม่สามารถเติบโตมารองรับการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้ทัน เนื่องจาก Electrolyzer เองก็ใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก โดยการผลิตพลังงานจาก Electrolyzer กำลังการผลิต 1 GW จะต้องใช้ไฟฟ้าจากกังหันลมที่มีกำลังการผลิตถึง 20 GW ในปัจจุบัน 


แต่ Rystad Energy ก็ยังเชื่อว่า การผลิตไฮโดรเจนสีเขียวจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากจีนเองมีเป้าหมายในการลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ภายในปี 2030 และยังมีเป้าหมายในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2060 นี้ด้วย


ข้อมูลจาก Interesting Engineering

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง