รีเซต

“เผ่าภูมิ”หวังธปท.ลดดอกเบี้ยนโยบายหลังเห็นพ้องมุมมองเศรษฐกิจ

“เผ่าภูมิ”หวังธปท.ลดดอกเบี้ยนโยบายหลังเห็นพ้องมุมมองเศรษฐกิจ
ทันหุ้น
8 ตุลาคม 2567 ( 14:01 )
9
“เผ่าภูมิ”หวังธปท.ลดดอกเบี้ยนโยบายหลังเห็นพ้องมุมมองเศรษฐกิจ

“เผ่าภูมิ”เผยธปท.มีมุมมองเศรษฐกิจทิศทางเดียวกับคลังมากขึ้น หลังรมว.คลังได้หารือร่วมกับผู้ว่าธปท.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งค่าเงินผันผวน การปรับกรอบเงินเฟ้อและส่วนต่างดอกเบี้ยฝากกับกู้ หวังกนง.จะใช้เป็นฐานข้อมูลพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย

 

#ทันหุ้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ขณะนี้ มุมมองทางเศรษฐกิจ ระหว่าง กระทรวงการคลัง กับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีความใกล้เคียงกันมากขึ้น ไม่ว่า จะเป็นเรื่องความผันผวนของค่าเงิน ที่แข็งเกินภูมิภาค เรื่องกรอบเงินเฟ้อ หรือเรื่องส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้

 

“ภายหลังจากการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ ผู้ว่าการธปท.เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ต.ค.ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผ่านมานี้ ผลการหารือครั้งนั้นเป็นเชิงบวก มีความเข้าใจตรงกันมากขึ้น มีมุมมองทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น โดยฝั่งธปท.ได้รับทราบความกังวลของกระทรวงการคลังในหลายมิติ”

 

เขากล่าวว่า เราคาดหวังว่าจะเอาปัจจัยเหล่านี้ไปคุยในคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เพื่อช่วยให้การปรับหรือไม่ปรับดอกเบี้ยมีข้อมูลที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ แต่เราได้สื่อสารไปแล้ว เราก็ต้องให้เกียรติกัน

ส่วนการขยายกรอบเงินเฟ้อนั้น การหารือในเรื่องดังกล่าวจะมีสองมิติ คือ มิติแรก คือ กรอบนั้นเหมาะสมหรือไม่ และอีกมิติ คือ ถ้าเงินเฟ้อไม่เข้ากรอบจะดำเนินการอย่างไร

 

ส่วนเรื่องการคัดสรรประธานคณะกรรมการธปท.คนใหม่นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ตนจะไม่พูดถึงตัวบุคคล และไม่พูดถึงกระบวนการคัดสรรว่ามีการดำเนินการอย่างไร แต่พูดถึงหลักการการแต่งตั้งว่า เวลาดูเรื่องคนที่เหมาะสม ต้องพิจารณาให้รอบด้านพิจารณาจากความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และทักษะในมิติของการเงินและการคลัง

 

ทั้งนี้ เพราะเราทราบกันดีว่าการเงินและการคลังมองแยกกันไม่ได้ คนที่เหมาะสม จะต้องมองมิติทั้งขาควบคู่กันไป จะเอานักการเงินจ๋าๆมาเลยก็จะมองภาพเฉพาะการเงิน ถ้ามุมมองนักเศรษฐศาสตร์การคลังจ๋า ก็จะมีมุมที่อาจจะยังไม่ครบถ้วน ดังนั้น ในหลักการควรมีความครอบคลุมและรอบด้าน

 

เขากล่าวด้วยว่า อยากเห็นการทำงานระหว่าง ธปท.และคลัง ที่ต้องทำงานควบคู่กัน และทำงานใกล้ชิดกัน ก็อาจมีการเห็นตรง เห็นต่างกันบ้าง ยิ่งมีการทำงานใกล้กัน ยิ่งต้องมีการแลกเปลี่ยนกัน

 

อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า ไม่ว่าใครจะมาเป็นประธานบอร์ดธปท.คนใหม่ กระทรวงการคลัง และ ธปท.จะต้องปรับจูนกัน หารือกัน แลกเปลี่ยนกันมองเศรษฐกิจให้ตรงกัน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง