STGT ลิเบอเรเตอร์ ชี้กำไร Q4/67 ดีกว่าคาด แนะนำซื้อ

#STGT #ทันหุ้น-บล.ลิเบอเรเตอร์ ได้ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ที่ได้รายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 4/67 ที่ 557 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 87 ล้านบาทในไตรมาส 3/67 และขาดทุน 42 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 ซึ่งกำไรไตรมาส 4/67 ดังกล่าวออกมาดีกว่าคาด จากรายได้อื่นมากกว่าคาด จากรายได้ดอกเบี้ยรับคืนจากเงินกู้ระยะยาวจำนวน 483 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทยรับรู้ในไตรมาส 4/67
ส่วนแนวโน้มผลดำเนินงานในปี 2568 ฝ่ายวิจัยลิเบอเรเตอร์คาดว่ากำไรจะทรงตัวหลังราคาวัตถุดิบเร่งตัวขึ้น และอัตราภาษีเพิ่มจากผลกระทบ GMT แต่ upside และปันผลยังน่าสนใจ
นอกจากนี้ยังมองว่าไทยยังได้เปรียบการส่งออกถุงมือยางในตลาดโลกทั้งอัตราภาษีที่ถูกกว่า และความพร้อมของแหล่งวัตถุดิบ หลังจากที่ผู้แทนการค้าสหรัฐ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าถุงมือการแพทย์จากจีนเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2567 โดยปัจจุบันจีนเสียภาษี 60% และเพิ่มเป็น 110% ในปี 2569 ขณะที่ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และอินเดียได้รับการยกเว้น แต่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับถุงมือการแพทย์จะเสียเพียง 3% ขณะที่จีนเสีย 38%
แม้ว่าข่าวดังกล่าวถือเป็นบวกต่อผู้ประกอบการในไทยและประเทศอื่นๆ แต่มองว่าการแข่งขันด้านราคาในตลาดอื่นๆ (ไม่ใช่ตลาดสหรัฐ) จะรุนแรงขึ้นแทนหากจีนไม่สามารถส่งออกไปสหรัฐได้ ก็จะทำให้ถุงมือยางจีนอาจไหลไปที่ตลาดอื่นแทน โดยเฉพาะตลาดยุโรป อย่างไรก็ตาม STGT ได้เปรียบในด้านวัตถุดิบน้ำยางธรรมชาติทำให้มองว่า STGT ก็ยังคงความได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการชาติอื่นอยู่ดี
"เราคาดว่า STGT จะได้ประโยชน์จากการที่จีนถูกขึ้นภาษีนำเข้าในสหรัฐ ขณะที่ไทยมีความได้เปรียบหากเทียบกับประเทศที่เหลือจากอัตราภาษีที่ถูกกว่า เรามองบวกต่อธุรกิจหลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรม และสต๊อกลดลง แต่การแข่งขันที่จะมากขึ้นและราคายางที่เพิ่มขึ้นทำให้การดำเนินงานจะได้รับผลจากปัจจัยดังกล่าว แต่ว่า STGT ให้ผลตอบแทนเงินปันผลสูง 6.3% น่าพอใจ จึงยังคงแนะนำซื้อ"ฝ่ายวิจัยลิเบอเรเตอร์ ระบุในบทวิเคราะห์
ทั้งนี้ได้ให้ราคาเป้าหมาย STGT อยู่ที่ 9.30 บาท
ราคาหุ้น STGT วันนี้เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7.80 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 1.27% มีมูลค่าการซื้อขาย 29.37 ล้านบาท