แย่งซื้อไปเลี้ยง! ลูกหมูราคาพุ่ง ไม่พอขาย เจ้าของฟาร์มบ่นอุบ ราคาอาหารกลับพุ่งตาม
ข่าววันนี้ 10 ม.ค.65 ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงสุกรบ้านเกาะปราง หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง นายประยวด สุขดำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา ในฐานะประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงสุกรบ้านเกาะปราง กล่าวว่า ในกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 20 คน โดยกระจายกันเลี้ยง ในส่วนของตนมีแม่พันธุ์อยู่ 10 ตัว ขณะนี้มีลูกสุกร อายุ 40 วัน 14 ตัว ซึ่งมีคนจองทั้งหมดแล้ว โดยจำหน่ายในราคาตัวละ 2,500 บาท
ก่อนหน้านี้เคยจำหน่ายในราคาตัวละ 2,000 บาท ซึ่งคนที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องการจะเอาไปเลี้ยงขุน เพื่อส่งขายเป็นสุกรชำแหละ ขณะนี้ราคาสูงมาก ทำให้ขณะนี้ลูกสุกรมีไม่พอจำหน่าย เพราะความต้องการสูงมากขึ้นกว่า 40% โดยมีบางคนที่ต้องการเลี้ยงมาสอบถามอยู่ตลอดเวลาว่า แม่สุกรจะตกลูกอีกเมื่อไร เพราะต้องการซื้อ
ทั้งนี้ แม่สุกรเมื่อผสมพันธุ์แล้วใช้เวลาประมาณ 4 เดือน หรือประมาณ 114-119 วัน ก็จะตกลูก หลังจากนั้นประมาณ 45 วัน ก็สามารถขายเป็นลูกสุกรได้ แต่ส่วนตัวก็จะต้องเก็บไว้บางส่วน เพื่อจะนำไปขุนเอง และเมื่อขุนได้ขนาด จะถูกนำไปส่งให้กับพ่อค้าเขียงหมู ซึ่งจะเป็นผู้ที่นำอาหารหมูมาขายให้แก่เกษตรกร และจะรับซื้อลูกสุกรขุนที่พวกตนเลี้ยงกลับไปทั้งหมด ทำให้เกษตรกรไม่ต้องมีปัญหาเรื่องของการตลาด แถมช่วงนี้ยังทำให้ราคาหมูหน้าฟาร์มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา จนล่าสุดถึงกิโลกรัมละ 90 บาทแล้ว ซึ่งไม่เคยมีราคาที่ดีเช่นนี้มาก่อนเลย ซึ่งขณะนี้มีสุกรขุนอยู่ในฟาร์มจำนวน 50 ตัว รอทยอยส่งขายให้พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมู
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกษตรกรรู้สึกกังวลก็คือ ราคาอาหารหมูที่ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ครั้งละ 10 บาทต่อกระสอบ รวมประมาณ 4 ครั้งแล้ว นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 และล่าสุดที่ปรับขึ้นก็คือ เมื่อช่วงต้นปี 2565 ต่างไปจากเมื่อก่อนที่นานๆ ราคาอาหารหมูจะปรับขึ้นสักครั้ง โดยทางผู้ผลิตอ้างว่าเกิดจากวัตถุดิบขาดแคลน ทั้งนี้ ราคาอาหารจะมีทั้งหมด 5 ขนาด เริ่มจากขนาดเล็กจะแพงสุด ไปจนถึงสุกรขุนจนส่งขายได้ โดยมีราคากระสอบละ 790 บาท, 700 บาท, 570 บาท, 500 บาท และ 480 บาท ทำให้ต้นทุนอาหารเพิ่มขึ้นมาประมาณ 30% โดยสุกร 1 ตัว กินอาหารประมาณ 7 กระสอบ เพราะแม้ตนจะไม่ต้องซื้อลูกสุกร แต่ต้องเลี้ยงแม่พันธุ์ไว้ขยายพันธุ์เอาลูก จึงต้องแบกรับค่าอาหารที่แพงขึ้น