มือใหม่รถไฟฟ้า EV ต้องรู้ ความแตกต่างระหว่างระบบชาร์จ AC และ DC ต่างกันอย่างไร

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ที่กำลังให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้า EV วันนี้ลองมาศึกษาเทคโนโลยีการชาร์จหลักๆ ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่าแพร่หลาย คือ การชาร์จรถไฟฟ้าแบบ AC (Alternating Current) และ DC (Direct Current) ที่หลักๆ จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านของความเร็วในการชาร์จ กลไกการทำงาน และสถานที่ใช้งาน ดังนี้:
ความแตกต่างของระบบชาร์จ AC และ DC
การชาร์จ AC:
- ลักษณะ:
- เป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปในบ้านและอาคาร
- เครื่องชาร์จ AC จะส่งไฟฟ้ากระแสสลับไปยังเครื่องชาร์จที่ติดตั้งในรถยนต์ (On-Board Charger) เพื่อแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรงก่อนที่จะชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่
- ความเร็ว:
- มีความเร็วในการชาร์จที่ช้ากว่าการชาร์จ DC
- เหมาะสำหรับการชาร์จในชีวิตประจำวัน เช่น การชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน
- ส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ย 4-16 ชั่วโมง
- สถานที่:
- มักพบได้ตามบ้านเรือน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือจุดชาร์จสาธารณะทั่วไป
- ข้อดี:
- ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและใช้งานเครื่องชาร์จ AC ค่อนข้างต่ำ
- เหมาะสำหรับการชาร์จแบบค้างคืนหรือชาร์จระหว่างวัน
- ข้อเสีย:
- ใช้เวลานานในการชาร์จกว่า
การชาร์จ DC:
- ลักษณะ:
- เป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งส่งไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ของรถยนต์โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านเครื่องชาร์จในรถยนต์
- เครื่องชาร์จ DC จะมีตัวแปลงไฟฟ้าในตัว
- ความเร็ว:
- มีความเร็วในการชาร์จที่สูงกว่าการชาร์จ AC มาก
- เหมาะสำหรับการชาร์จเมื่อต้องการความรวดเร็ว เช่น แวะเติมระหว่างการเดินทางไกล
- ส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 30 นาที - 2 ชั่วโมง
- สถานที่:
- มักพบได้ตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าตามปั๊มน้ำมัน หรือจุดพักรถริมทางหลวง
- ข้อดี:
- ชาร์จได้รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลา
- ข้อเสีย:
- ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและใช้งานเครื่องชาร์จ DC สูงกว่า
- เครื่องชาร์จมีขนาดใหญ่กว่า
ก็ประมาณนี้ครับสำหรับความแตกต่างระหว่างการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC และ DC แต่อย่างไรก็ตาม จะบอกว่าอย่างไรดีกว่ากันอาจจะบอกไม่ได้ เนื่องจากแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป รวมถึงการเลือกใช้ประเภทการชาร์จขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้มากกว่าว่าเราสะดวกแบบไหน หากใช้รถตามชีวิตประจำวัน เดินทางไปกลับที่ทำงาน ไปส่งลูกไปเรียน อาจจะเหมาะกับ AC มากกว่า ในทางกลับกัน หากต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ เช่น เดินทางไปต่างจังหวัดแล้วจอดแวะพักรถหรือพักคน การชาร์จ DC จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า