รีเซต

มือใหม่รถไฟฟ้า EV ต้องรู้ ความแตกต่างระหว่างระบบชาร์จ AC และ DC ต่างกันอย่างไร

มือใหม่รถไฟฟ้า EV ต้องรู้ ความแตกต่างระหว่างระบบชาร์จ AC และ DC ต่างกันอย่างไร
EntertainmentReport1
28 มีนาคม 2568 ( 00:33 )
24

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ที่กำลังให้ความสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้า EV วันนี้ลองมาศึกษาเทคโนโลยีการชาร์จหลักๆ ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่าแพร่หลาย คือ การชาร์จรถไฟฟ้าแบบ AC (Alternating Current) และ DC (Direct Current) ที่หลักๆ จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านของความเร็วในการชาร์จ กลไกการทำงาน และสถานที่ใช้งาน ดังนี้:


ความแตกต่างของระบบชาร์จ AC และ DC

 

 

การชาร์จ AC:

  • ลักษณะ:
    • เป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปในบ้านและอาคาร
    • เครื่องชาร์จ AC จะส่งไฟฟ้ากระแสสลับไปยังเครื่องชาร์จที่ติดตั้งในรถยนต์ (On-Board Charger) เพื่อแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสตรงก่อนที่จะชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่
  • ความเร็ว:
    • มีความเร็วในการชาร์จที่ช้ากว่าการชาร์จ DC
    • เหมาะสำหรับการชาร์จในชีวิตประจำวัน เช่น การชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน
    • ส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ย 4-16 ชั่วโมง
  • สถานที่:
    • มักพบได้ตามบ้านเรือน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า หรือจุดชาร์จสาธารณะทั่วไป
  • ข้อดี:
    • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและใช้งานเครื่องชาร์จ AC ค่อนข้างต่ำ
    • เหมาะสำหรับการชาร์จแบบค้างคืนหรือชาร์จระหว่างวัน
  • ข้อเสีย:
    • ใช้เวลานานในการชาร์จกว่า

 

 

การชาร์จ DC:

  • ลักษณะ:
    • เป็นการชาร์จโดยใช้ไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งส่งไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ของรถยนต์โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านเครื่องชาร์จในรถยนต์
    • เครื่องชาร์จ DC จะมีตัวแปลงไฟฟ้าในตัว
  • ความเร็ว:
    • มีความเร็วในการชาร์จที่สูงกว่าการชาร์จ AC มาก 
    • เหมาะสำหรับการชาร์จเมื่อต้องการความรวดเร็ว เช่น แวะเติมระหว่างการเดินทางไกล
    • ส่วนใหญ่ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 30 นาที - 2 ชั่วโมง
  • สถานที่:
    • มักพบได้ตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าตามปั๊มน้ำมัน หรือจุดพักรถริมทางหลวง
  • ข้อดี:
    • ชาร์จได้รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลา
  • ข้อเสีย:
    • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและใช้งานเครื่องชาร์จ DC สูงกว่า
    • เครื่องชาร์จมีขนาดใหญ่กว่า

 

 

ก็ประมาณนี้ครับสำหรับความแตกต่างระหว่างการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC และ DC แต่อย่างไรก็ตาม จะบอกว่าอย่างไรดีกว่ากันอาจจะบอกไม่ได้ เนื่องจากแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป รวมถึงการเลือกใช้ประเภทการชาร์จขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้มากกว่าว่าเราสะดวกแบบไหน หากใช้รถตามชีวิตประจำวัน เดินทางไปกลับที่ทำงาน ไปส่งลูกไปเรียน อาจจะเหมาะกับ AC มากกว่า ในทางกลับกัน หากต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ เช่น เดินทางไปต่างจังหวัดแล้วจอดแวะพักรถหรือพักคน การชาร์จ DC จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง